ผมเรียนจบวิทยาการคอมพิวเตอร์จากมหาวิทยาลัยของรัฐแห่งหนึ่ง แต่ด้วยความที่ผมเป็นเด็กทุึนผลิตครู ผมจึงต้องมาบรรจุเป็นครูเพื่อใช้ทุน 5 ปี และด้วยความที่ผมเรียนมาด้านการเขียนโปรแกรม ผมจึงเบื่อการเป็นครู ซึ่งวันๆ มีงานเอกสารมากมาย ที่ไม่ใช่การสอน พี่ๆ ช่วยตอบคำถามผมต่อไปนี้หน่อยนะครับ
- เมื่อครบ 5 ปี ถ้าผมจะออกจากราชการไปเป็นโปรแกรมเมอร์ จะได้ไหมครับ(มีแนวทางไหนบ้าง)
- ถ้าช่วงที่ผมใช้ทุน 5 ปี ผมเรียนต่อโทไปด้วย แล้วไปสมัครงานจะได้หรือไม่ครับ
- การที่ผมเป็นครูมาก่อน ผมควรจะเรียนโทสายไหน (วิศวะคอมฯหรือวิทยาการคอม) บริษัทเขาถึงจะยอมรับ (ถ้าพิจารณานอกเหนือจากฝีมือ)
- บริษัทต่างๆ เค้าจะรับคนที่มีประสบการณ์เป็นครูมาหรือเปล่าครับ
- ผมคิดถูกหรือไม่ที่จะออกราชการไปทำในสิ่งที่ตนเองชอบ
ขอบคุณพี่ๆ ทุกคนที่ช่วยตอบคำถามนะครับ ถ้ามีอะไรเพิ่มเติมพี่ๆ ช่วยชี้แนะผมมาด้วยนะครับ ขอบคุณครับ
- ชอบความเห็นอันเนี๋ยของคุณ Jigko เค้าตอบกระทู้ว่า
เจอคำถามนี้ ในสภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ คิดดีๆ นะน้อง
ผมนี่แหละมีอาชีพครูมาค่อนชีวิต อายุราชการตอนนี้ 30 ปีขึ้นแล้ว ผมไม่ได้เรียนมาทางคอมพิวเตอร์ สมัยนั้นมันไม่โด่งดัง และไม่อยู่ในความคิดของเด็กบ้านนอกอย่างผม
เมื่อสิบกว่าปีที่แล้วผมได้สัมผัสคอมพิวเตอร์ เรียนรู้มัน ใช้มัน และนำมันมาเป็นอาชีพเสริม
ตอนนี้ก็ยังรับราชการครูอยู่ แต่ผมก็รับงานฟรีแลนซ์ที่ผมชอบทำคือรับจ้างทำโปรเจกต์ต่างๆ มากมาย ผมไม่มีความรู้ลึกซึ้งมากมายในการเขียนโค๊ดหรือโปรแกรมอย่างคุณ แต่ผมมีความรู้เรื่องการบริหารจัดการ ผมไม่อยากเป็น Labour แต่ผมคือ Manager รับงานมาประสานหาคนเก่งให้แบ่งงานกันทำ แล้วผมนำมันมาประกอบและแปลงร่างส่งงานรับเงินมาแจกจ่ายกัน แน่นอนผู้จัดการลงแรงน้อยกว่าแต่ได้เงินมากกว่ากรรมกร
ดังนั้นคำถามของคุณผมจึงมีคำตอบให้ดังนี้
เมื่อครบ 5 ปี ถ้าผมจะออกจากราชการไปเป็นโปรแกรมเมอร์ จะได้ไหมครับ(มีแนวทางไหนบ้าง) (ไปได้ แต่จะรุ่งหรือจะร่วงไม่ทราบ คุณอาจจะคิดว่าตอนนี้คุณเก่ง แน่ แต่ลองสำรวจตัวเองหรือยังคุณทำงานกับทีมได้ดีเพียงใด ระบบการจัดการบริษัทคือการประสานงานและพูดจาภาษาเดียวกัน ดูที่งานในโรงเรียนของคุณตอนนี้ก็ได้ ได้แต่ก้มหน้าก้มตารับงานมาสุมหัว คุณมีเหตุผลกล้าพูดกับผู้บังคับบัญชาคุณหรือเปล่า?)
ถ้าช่วงที่ผมใช้ทุน 5 ปี ผมเรียนต่อโทไปด้วย แล้วไปสมัครงานจะได้หรือไม่ครับ (ก้าวที่พลาด ถ้าคุณลาไปเรียนคุณก็เป็นหนี้เขาอีก ใช้ทุนอีก ถ้าเรียนวันหยุด-เสาร์-อาทิตย์ ผมยังมองไม่เห็นสถาบันที่จะสร้างความรุ่งโรจน์ให้คุณแกร่งในฝีมือได้ เว้นแต่ปริญญากระดาษอีกไป)
การที่ผมเป็นครูมาก่อน ผมควรจะเรียนโทสายไหน (วิศวะคอมฯหรือวิทยาการคอม) บริษัทเขาถึงจะยอมรับ (ถ้าพิจารณานอกเหนือจากฝีมือ)(บริษัททุกแห่งดูที่ฝีมือเป็นหลัก เขาจะดูที่ผลงานของคุณก่อนหน้า และในขณะทดลองงาน ถ้าไม่รอดตามข้อหนึ่ง ก็จอดแล้ว)
บริษัทต่างๆ เค้าจะรับคนที่มีประสบการณ์เป็นครูมาหรือเปล่าครับ (ไม่เกี่ยงว่าทำงานอะไรมา ผมเป็นครู มีผลงานด้านนี้เยอะพอสมควร มีหลายที่เชิญผมไปร่วมงาน แต่ผมปฏิเสธเพราะต้องการเป็นนายตนเอง ไม่ได้อยากไปเป็นลูกจ้าง ทำงานหามรุ่งหามค่ำ เพื่อผลงานและรายได้ของบริษัท เงินเดือนคุณก็เท่านั้นแหละ เพิ่มไม่มาก ถ้าสูงมากเดี๋ยวมีซองขาวเชิญออกอีก ที่สำคัญผมเห็นเพื่อนหลายคนมันเบื่อ เพราะต้องทำในสิ่งเดียวซ้ำๆ ซากๆ ตามคำสัง อย่าคิดว่าจะทำแบบนอกกรอบได้อย่างที่คุณคิด ตอนนี้รับจ็อบไปก็ได้เดือนละหลายหมื่น บางเดือนเจอแจ็กพอทก็นับแสนบาทเหมือนกัน)
ผมคิดถูกหรือไม่ที่จะออกราชการไปทำในสิ่งที่ตนเองชอบ (คิดเองเถอะครับ คำตอบข้างบนนะตอบโจทย์ได้แล้ว สำหรับผมการลาออกคือลาออกไปพักผ่อนใช้ชีวิตให้สนุกกับเงินเก็บที่สะสมมา ลูกมีงานทำแล้ว ผมหมดห่วง ไม่คิดจะลาออกเพื่อไปเป็นลูกน้องใคร รับงานที่เคยทำไปเรื่อยๆ จนกว่าจะหมดแรงดีกว่า)
ฅนอีสาน ถึงจนแต่จริงใจ
ความเห็นส่วนตัวคน เมืองหลวง รวย แต่หาคนจริงใจ...
- เป็นกระทู้ที่น่าสนใจ และ คนตอบให้แนวทางการคิดดีมากๆ
- ซึ่งตอนนี้เราอยากเป็นนะ ข้าราชการพลเรือนเนี๋ย
- แต่ยังสอบไม่ผ่านหว่า
- การทำงานบริษัท ทำงานเป็นทีม ทีมเยี่ยมก็ดีไป แต่ทีมไม่เวิร์คอ่ะดิแย่
- ยิ่ง ในทีมมีแมงตัวเนี๋ย "แมงโม้ + มั่ว" อันนี่ไม่เท่าไหร่เป็นเรื่องของแมงมัน แมงดันว่าแมงตัวอื่นเค้ามั่วอ่ะดิ ทั้งที่มันไม่ได้เป็นแบบนั้นเลยหว่า
- นั่งมอง + ฟัง แมงตัวนี้พร่ามไปเรื่อย แล้วน่าอายแทนเค้าจริงๆ ยังไม่รู้ตัวเองอีก ว่า ...
ยืนยัน โดย juuier
No comments:
Post a Comment