1. สร้าง ',' หรือ comma (จุลภาค) นั่นเอง สำหรับข้อมูลที่เป็นตัวเลข ด้วย method toString ที่ใช้กันบ่อยๆ ToString("#,#.##");
Example:
int a = 1234567890;1.1 เติม 0 (เลขศูนย์) ข้างหน้า
double b = 1234567890.08;
float c = 1234567890.05f;
Console.WriteLine(a.ToString("#,#.##"));
Console.WriteLine(b.ToString("#,#.##"));
Console.WriteLine(b.ToString("#,#.##00"));
Console.WriteLine(c.ToString("#,#.##"));
Console.WriteLine(a.ToString("#,#.#"));
Console.WriteLine(b.ToString("#,#.#"));
Console.WriteLine(b.ToString("#,#.#00"));
Console.WriteLine(c.ToString("#,#.#"));
Console.ReadLine();
1,234,567,890
1,234,567,890.08
1,234,567,890.0800
1,234,568,000
1,234,567,890
1,234,567,890.1
1,234,567,890.080
1,234,568,000
int i = 3;2. การใช้งาน DateTime ใน C#
string s = String.Format("{0:0000}", i);
ผลลัพธ์จะประมาณ 0003
การกำหนดรูปแบบ (DateTime Format)
DateTime dateTime = new DateTime(
1979, // Year ปีที่เป็น ค.ศ.
07, // Month
28, // Day
22, // Hour
35, // Minute
5 // Second
);
string date = DateTime.Now;
date.DayOfWeek = Monday ถึง Sunday
date.Day = วันปัจจุบัน
date.ToString("MMMM") = เดือนในรูปแบบชื่อเต็ม เช่น January หรือ April
date.ToString("HH:mm:ss") = ชั่วโมงในรูปแบบ 24 นาฬิกา:นาที:วินาที เช่น 23:12:45
date.ToString("hh:mm:ss:tt") = ชั่วโมงในรูปแบบ 12 นาฬิกา:นาที:วินาที:AM หรือ PM เช่น 03:15:20 PM
การบวกจำนวนชั่วโมง วัน เดือน ปี ของตัวแปร DateTime
DateTime date = DateTime.Now().AddDays(-5);
เป็นการลบเวลาย้อนหลัง 5 วัน
DateTime date = DateTime.Now().AddDays(5);
เป็นการเพิ่มเวลาไปข้างหน้าอีก 5 วัน
DateTime date = DateTime.Now().AddMinutes(10);
เป็นการเพิ่มเวลาไปข้างหน้าอีก 10 นาที
การแปลงข้อความให้เป็นตัวแปร DateTime
DateTime myDate = DateTime.Parse("2 Jan 2007 20:15:00");
การเพิ่มเวลาเข้าไปตามจำนวนที่กำหนด
DateTime myDate = DateTime.Now + new TimeSpan(1, 1, 1);
เป็นการเพิ่มเวลาเข้าไปเป็นจำนวน 1 ชั่วโมง 1 นาที 1 วินาที
การลบตัวแปร DateTime หรือ ลบเวลาระหว่าง 2 เวลา
DateTime date1 = DateTime.Now;
DateTime date2 = DateTime.Now().AddDays(10);
TimeSpan diffTime = date2.Subtract(date1);
Note:
- การแสดงผลตัวเลข สังเกตมีการปัดเศษให้กันด้วยแฮะ
ที่มา และ อ่านเพิ่มเติม
No comments:
Post a Comment