Monday, December 28, 2009

Install sopcast player in Ubuntu 9.10(Karmic) 32 & 64 bit

  • เป็นปกติที่จะต้องเข้าไปที่ forum ของ ubuntuclub เพื่อไปหาความรู้เกี่ยวกับ ubuntu linux distro
  • ไปเจอบทความเรื่อง มาดูฟุตบอลและกีฬาต่างๆ ผ่านเน็ต บน Ubuntu กันเถอะ
  • ปกติบน windows เราก็เปิดดูอยู่บ่อยๆ อ่ะนะ
  • ก็เลยทำตามที่เค้าบอกอ่ะดิ แต่เครื่องเราลง ubuntu 9.10 64bit มันเปิดได้แต่เล่นไม่ได้ซะงั้น ทั้งที่โหลด package 64 bit ที่เค้าใส่ลิ้งไว้ให้แล้วอ่ะนะ
  • แต่เห็นในกระทู้นั้นเค้าบอกว่า 32bit ไม่มีปัญหานะดูได้
  • ลองเปลี่ยน port และ คอนฟิกอื่นๆ ก็เล่นไม่ได้
  • อยากดู sopcast บน ubuntu อย่างแรง นั่งตั้งนาน และแล้วก็ไปเจอบทความ บน ubuntugeek ในนั้นเค้าเขียนบอกการติดตั้ง sopcast เฉพาะ i386 ซึ่งมันคือ 32bit คิดในใจว่า เซงไม่เห็นมี 64bit ให้เราเลยหว่า ลองเพิ่ม source list เข้าไปดูเล่น
  • sudo add-apt-repository ppa:jason-scheunemann/ppa
  • หลังจากนั้นไป search ที่ synaptic ดูปรากฏว่ามี sopcast, sp-auth, libstdc++5 ให้เราด้วยแหละ ซึ่งดู เวอร์ชั่นเทียบกับที่โหลดมาติดตั้งตอนแรกตอนแรกมันคนละเวอร์ชั่นนี่หว่าอืม **'
  • ซึ่งหลังจากทำการติดตั้งจาก apt-get install libstdc++5 sp-auth sopcast-player แล้วโปรแกรมจะอยู่ที่ Applications , Sound & Video ผลคือ buffer ได้แล้ว ^^'
วิธีติดตั้ง sopcast บน ubuntu 9.10 32 และ 64 bit
1. เพิ่ม sopcast player PPA ด้วยคำสั่งด้านล่างซึ่ง การเพิ่มจะไม่ได้ไปเพิ่มที่ /etc/apt/sources.list นะแต่จะไปอยู่ที่ folder /etc/apt/sources.list.d
sudo add-apt-repository ppa:jason-scheunemann/ppa
2. ทำการอัพเดทและติดตั้ง sopcast ด้วยคำสั่ง
sudo apt-get update
sudo apt-get install sp-auth libstdc++5 sopcast-player
3. พร้อมใช้งานแหละ 3 คำสั่งเองง่ายมากๆ โปรแกรมจะอยู่ที่ Applications > Sound & Video

เพิ่มเติม
  • remove ของเดิม ก่อนค่อยติดตั้งของใหม่นะครับพี่น้อง
  • หรือไม่ก็ลงของใหม่ไม่ได้มั้งนะคิดว่า
  • อีกเรื่อง libstdc++5 เนี๋ยไม่ลงก็ได้เพราะ ระบบจะใช้ lib32stdc++5 แทน เพราะตอนแรกไม่ได้ลง libstdc++5 ก็ยังเล่นได้อยู่เลย

อ้างอิง

Sunday, December 27, 2009

เรื่องขำๆ กับ (สาย) เน็ต TOT

  • ปัญหาเนี๋ยเกิดขึ้นประมาณ 2 เดือนก่อนแหละ
  • คือที่บ้านใช้เน็ต 3 MB ของ TOT เดือนละ 500 หน่อยๆ อ่ะนะ
  • ซื้อ TP-LINK ADSL Router มาเปลี่ยน Router ตัวเดิมของ TOT เค้าที่มี port LAN อันเดียวอ่ะ
  • จำได้ว่าเล่นสองสามวันแรกไม่มีปัญหา
  • พอเรากลับมาบ้านอีกที ประมาณ เดือน หลังจากซื้อ router มาเปลี่ยนแล้ว เราก็กลับมาอีกรอบ
  • ทำไมเน็ต เล่นได้แต่กลางวันหว่า เพราะตอนเราจะนอน จะต่อเน็ต ไง๋เล่นเน็ตไม่ได้ซะงั้น
  • โทรไปที่ call center เค้าบอกว่าจะเช็คให้ สัก สองสามวันเค้าส่งพนักงานมา
  • เค้าเช็คที่ hub ของ RJ11 (หัวต่อสายโทรศัพท์อ่ะนะ) เค้าบอกว่าเราต่อผิด เราเอาสายโทรศัพท์ไปเสียบช่อง modem และเอา modem router ไปเสียบช่อง phone ทำให้เล่นไม่ได้
  • งงอย่างแรงแล้วไง๋ ตอนกลางวันเล่นได้อ่ะ แต่กลางคืนเล่นไม่ได้ ซึ่งสาเหตุเพราะต่อสายสลับกัน ระหว่าง modem กับ phone ซะงั้น พนักงานเค้าคงคิดว่าเราเล่นไม่ได้เพราะเราโง่เสียบสายผิด ซึ่งจริงๆ มันเล่นกลางวันได้อ่ะ แต่กลางคืนเล่นเน็ตไม่ได้ ใครจะไปรู้ล่ะว่าเป็นเรื่องการเสียบสายต่อ - -'
  • ซึ่งจะให้ดีถ้าเสียบสายผิดก็ควรใช้เน็ตไม่ได้ทั้งวันเลยดิ ใช่ปะ ไม่ใช่ เสียบสายสลับกัน แต่กลางวันเล่นได้ กลางคืนเล่นไม่ได้ เวงจริงๆ
  • แบบนี้ก็มีด้วยขำอย่างแรง อยากขอคำอธิบายจาก พนักงานคนนั้นจัง เสียดายวันนั้นเราไม่อยู่ด้วย

Available memory less than 15MB!!!

ปัญหา
  • เปิด Counter-Strike v1.6 บน windows 7 64bit ขึ้น error นี้ซะงั้น และ ก็เล่นไม่ได้ด้วยหว่า
  • "available memory less than 15 mb!!!"
  • ซึ่งแต่ก่อนใช้ windows 7 32bit ไม่เห็นขึ้น error งี้เลยหว่า

แก้ปัญหา
  • แก้ไขโดยปรับ Properties ให้เปิดเป็นเกมส์ด้วย Compatibility mode
  • ซึ่งในที่นี้เลือกเป็น Windows Vista SP2

อ้างอิง

Sunday, December 20, 2009

Problem ID3 Tag & Tag&Rename

  • ปัญหาอันเดิมที่เคยเป็นคือ เปิดเพลงใน windows อ่านภาษาไทยได้ แต่พอเปิดเพลงนั้นๆ บน linux ดันผ่านไทยเป็นต่างดาวซะงั้น
  • แต่ปัญหาของโพสนี้ ต่างจากโพสก่อน คือ อันเนี๋ยเปิดกับ windows (7) และ linux (ubuntu) ก็เป็นภาษาต่างดาวหว่า

วิธีแก้ไข

By Easytag
  • เราสามารถใช้ Easytag แก้ปัญหาได้โดยเปิดโปรแกรม แล้วทำตามโพสเดิม คือ ปรับค่า charset ก่อนเลย แล้วก็เลือกไปที่ folder เพลง จากนั้น กดปุ่ม Scan file(s) แล้วค่อยทำการกดปุ่ม save (รูปแผ่นดิสอ่ะ)

By Tag&Rename
  • โดยเลือกไปที่ไฟล์ที่จะทำการแปลง ภาษาต่างดาวจากนั้น กดที่ Write Tags (ทำครั้งเดียวได้ครั้งละหลายไฟล์)

  • อีกทางก็ดับเบิ้ลคลิกที่ไฟล์นั้นจากนั้นคลิก Copy from ID3v1 Tag จากนั้นกด Save (ทำทีละไฟล์แล้ว Save and Next ซะงั้น)

SS Management Studio & The error code is 29506

"The installer has encountered an unexpected error installing this package. This may indicate a problem with this package. The error code is 29506."

ปัญหา

  • คือ พยายามติดตั้ง SQL Server Management Studio Express บน Windows 7 64 bit
  • ตอนแรกเอา 32 bit ติดตั้งไม่ผ่าน เพราะเค้าแสดงข้อความว่า
  • "unsupported operating system"
  • ก็เลยไปโหลด เวอร์ชั่น 64 bit แต่ทำไมตอนติดตั้งขึ้น The installer ... error code is 29506 ซะงั้น

แก้ปัญหา
  • ตามแหล่งอ้างอิงเค้าแนะนำให้ปิด UAC ก่อนอ่ะ
  • หรือ อีกคำแนะนำคือเปิด cmd โดย Run as administrator แล้วเปิดไฟล์ SQLServer2005_SSMSEE_x64.msi ผ่าน cmd นั่นแหละ
  • แค่นี้ก็ติดตั้งได้ไม่ขึ้น error ด้านบนแหละ


อ้างอิง

Saturday, December 19, 2009

Ubuntu 9.10 on ASUS F81Se VX200D hang

  • ตอนแรก คล้ายๆ จะเป็นกับ desktop effect คือ เปิดใช้งานแบบ normal หรือ extra แล้วมีปัญหา แต่บางที่ไม่ได้ใช้เลยเลือกเป็น none ยังค้างเลย karmic เรา
  • เปลี่ยนไปใช้ iso ตัวใหม่ที่โหลดมาก็ยังค้างอยู่
  • ทดสอบลง driver ati ตัวล่าสุดตอนแรก(วันแรก) ก็โอเคไม่ค้างแต่วันต่อๆ มาค้างซะงั้น
  • ใน ubuntuclub.com เราเองนี่แหละไปโพสถามไว้อ่ะนะ แล้วก็ได้หนทางแก้อาการเนี๋ย
  • ก็อปมาวางเลยขี้เกียจเขียน

ปัญหา
- คือ พึ่งติดตั้ง ubuntu 9.10 ให้ NB ASUS F81 ตอนลงเสร็จใหม่ๆ ก็ใช้ได้ปกติ
- แต่พอวันต่อมาอีกวัน เปิดใช้งาน ไม่ถึง ครึ่ง ชม. เครื่อง NB จะค้างไปเลยขยับอาไรไม่ได้เลย
- เปลี่ยน shell ไป F2 ถึง F6 ก็ไม่ได้ สรุป คือ ค้างแล้ว ทำอาไรไม่ได้เลย ต้องปิดเครื่องเปิดใหม่อย่างเดียว(หรือ รอให้แบตหมด ^^')
- พอเปิดใหม่ใช้ไป ก็เป็นอาการเดิมครับ


เพิ่มเติม

- ใช้ 9.04 กับ ASUS เครื่องเดียวกันเนี๋ย ไม่เคยเป็นแบบนี้เลยครับ
- ลงใหม่ไปแล้ว 3 รอบก็ยังมีอาการเหมือนเดิมครับ


ใครเคยเป็นมั่งครับ

- ไม่รู้เป็นกับ OS (คงไม่ใช่แน่ๆ เพราะ คนอื่นไม่เห็นมีปัญหาแบบนี้เลย มีแต่ค้างตอนบูตเล็กน้อย)
- Notebook
- หรือ โปรแกรมที่ติดตั้งเพิ่ม ลงเพิ่มไม่กี่ตัวเองอ่ะครับ utility พื้นฐานทั้งนั้น
- เช่น shutter, 7z แล้วก็ทำการ update โปรแกรม ตามที่ notify ขึ้นแสดงให้ update
- หรือ เป็นกับอาไร ????
- รบกวนพี่ๆ ช่วยแนะนำด้วยครับ

สรุปปัญหาและวิธีแก้

ASUS F81Se VX200D มีปัญหากับ visual effect ของ ubuntu 9.10 (9.04 ไม่เป็น) คือ เปิด visual effect แล้วเครื่งอจะค้างเลย
แต่ถ้าปิด visual effect ก็ใช้ระบบได้ปกติ (แต่บางทีก็ค้างนะ อ่ะงงเลยไม่ได้เปิด effect เลย)
วิธีแก้ปัญหาโดย ใช้ wicd แทน gnome-network manager ด้วยคำสั่ง
sudo apt-get install wicd พอติดตั้งเสร็จโปรแกรม wicd จะถูกใช้งานเลย
โดยที่ network-manger-gnome จะถูก remove โดยอัตโนมัติ
เครื่องรุ่นนี้(ไม่แน่ใจว่ารุ่นอื่นๆเป็นป่าว) ก็จะใช visual effect ได้โดยไม่ ค้าง ครับพี่น้อง

ขอบคุณท่าน aborigines อย่างเป็นทางการเพราะท่านนี้คือผู้ชี้แจงปัญหาและวิธีแก้ปัญหาครับ

ปล. มันเกี่ยวอาไรกับ network-manager ล่ะเนี๋ย


อ้างอิง

Saturday, November 28, 2009

How to create partition for dual OS Windows and Linux

แนะนำการแบ่งพาร์ทิชั่นสำหรับ dual OS ระหว่าง Windows and Linux

Windows แบ่ง C, D
  • C เอาไว้ลงระบบ
  • D เอาไว้เก็บข้อมูล

Linux แบ่ง /, SWAP
  • / เอาไว้ลงระบบ
  • SWAP แบ่งไว้เผื่อแรมน้อย โดยให้มีขนาดเป็น สองเท่าของ ขนาด แรมของเครื่องเรา (แรมไม่เกิน 4 G ควรแบ่งไว้นะ อันนี้ความเห็นส่วนตัว)
  • ส่วนเก็บข้อมูล ให้ไว้บน drive D ของ Windows ไง หรือ ถ้าจะเก็บไว้บน Linux ก็สร้าง /home ต่างหากไง

อ้างอิง

Friday, November 27, 2009

How to remove older kernels on Ubuntu 9.10

  • วันก่อนนั่งลง Karmics หลังจากลงเสร็จก็ทำการทำการ update ระบบน่ะสิครับ
  • ตอนแรกหลังลงเสร็จ kernel จะเป็น version เนี๋ย 2.6.31-14-generic
  • พอ update ระบบเสร็จหน้า Grub loader มี kernel 2.6.31-15-generic ขึ้นมาพร้อมกับ 2.6.31-14-generic ของเดิมด้วย
  • ก็เลือกเข้าระบบด้วย 2.6.31-15-generic ตรวจสอบ kernel ปัจจุบันด้วยคำสั่ง 'uname -r' ผลลัพธ์ก็ได้ 2.6.31-15-generic
  • อ้าวมีของใหม่แล้วจะใช้ของเก่าอยู่ใย จะเอา 2.6.31-14-generic ออกไงล่ะเนี๋ย
  • ตอนแรกแค่ไปแก้ไขไฟล์ /boot/grub/grub.cfg ก็โอเคนะ Grub loader แสดงแค่ 15 ก็เล่นไปคอมเม้น 14 ไว้อ่ะนะ
  • แต่พอ 'update-grub' เพราะไปเปลี่ยนภาพพื้นหลัง Grub เจ้า 2.6.31-14-generic ก็กลับมาอยู่ในรายการอีกครั้ง
  • พอไปเปิด /boot/grub/grub.cfg อืมมันแก้กลับคืนหว่า อืมลืมไป มันก็ถูกแหละ เพราะ ถ้าเราสั่ง 'update-grub' มันจะสร้าง grub.cfg ใหม่หว่า ^^'
  • จะ remove มันออกจากระบบจริงๆ ยังไงล่ะเนี๋ย

วิธีถอน kernel
1. ขั้นแรกเราต้องรู้ก่อนว่าตอนนี้เราใช้ kernel อาไรอยู่ด้วยคำสั่งนี้ 'uname -r' ในที่นี้ได้ผลลัพธ์เป็น '2.6.31-15-generic' ก็อันนี้แหละที่เพิ่มเข้ามาตอน update ระบบอ่ะนะ อย่าไป remove ตัวนี้เด็ดขาด

2. จากนั้นเราจะทำการถอน kernel version 2.6.31-14-generic ออกล่ะทีนี้โดยเปิด Synaptic Package Manager ขึ้นมาเลย แล้วค้นหาด้วยคำว่า '2.6.31-14'
# dpkg -l | grep linux-headers-*
  • เราเจอ 3 ตัวเนี๋ย ที่ติดตั้งแล้ว อืมก็ remove แค่นี้อ่ะนะ
linux-headers-2.6.31-14
linux-headers-2.6.31-14-generic
linux-image-2.6.31-14-generic
3. จากนั้น reboot ระบบ ที่นี้หน้า Grub loader 2.6.31-14-generic ก็จะไม่มากวนใจเราอีกแล้วครับพี่น้อง


อ้างอิง

KeePassX for password manager on Ubuntu 9.10

  • อยู่บน Windows ใช KeePass Password Safe
  • ฝั่ง Linux ก็มี KeePassX ให้ใช้เช่นกัน
  • ความสามารถแทบไม่ต่างกันกับ KeePass 2.xx บน Windows เลย
  • ต่างกันที่ไฟล์ฐานข้อมูลเท่านั้นเพราะ KeePass 2.x บน Windows จะเป็น kdbx แต่ KeePass บน Linux จะเป็น kdb เฉยๆไม่มี x
  • เราไม่สามารถ เปิดไฟล์ kdb บน KeePass 2.x ได้โดยตรงแต่เราสามารถ Import kdb เข้าไปเปิดบน KeePass 2.x ได้โดยการสร้าง db ใหม่แล้ว Import ไฟล์ kdb ได้เลย
  • อีกอย่างเราไม่สามารถเปิด kdbx บน KeePassX ใน Ubuntu ได้แต่เราสามารถใช้ KeePass 2.xx บน Windows export เป็น kdb ได้เห็นเค้าว่างั้นอ่ะนะ
  • KeePassX เป็นตัวเลือกที่ค่อนข้างดีเลยทีเดียวสำหรับ dual os user อ่ะนะ

Features
  • Extensive management- title for each entry for its better identification
    - possibility to determine different expiration dates
    - insertion of attachments
    - user-defined symbols for groups and entries
    - fast entry dublication
    - sorting entries in groups
  • Search function
    - search either in specific groups or in complete database
  • Autofill (experimental)
  • Database security
    - access to the KeePassX database is granted either with a password, a key-file (e.g. a CD or a memory-stick) or even both.
  • Automatic generation of secure passwords
    - extremly customizable password generator for fast and easy creation of secure passwords
  • Precaution features- quality indicator for chosen passwords- hiding all passwords behind asterisks
  • Encryption- either the Advanced Encryption Standard (AES) or the Twofish algorithm are used
    - encryption of the database in 256 bit sized increments
  • Import and export of entries
    - import from PwManager (*.pwm) and KWallet (*.xml) files- export as textfile (*.txt)
  • Operating system independent
    - KeePassX is cross platform, so are the databases, as well
  • Free software
    KeePassX is free software, published under the terms of the General Public License, so you are not only free to use it free of charge, but also to redistribute it, to examine and/or modify it’s source code and to publish your modifications as long as you provide the same freedoms for your modified version.
Frequently Asked Questions

General application questions

Is Auto-Type supported on Mac OS X or Windows?

No, Auto-Type is currently supported on Linux only.

What password database formats are compatible with KeePassX?

KeePassX currently uses the KeePass 1.x (Classic) password database format as the native format.
It can also import KeePassX 1.x XML exports, PwManager databases and KWallet XML databases.
KeePass 2.x database format is not supported.

Can I open KeePass 2.x password databases with KeePassX?

No, KeePassX does not support the KeePass 2.x (.kdbx) password database format currently.
However, you can create an export in KeePass 1.x database format (.kdb) from KeePass 2.x,
which KeePassX can read (and use as the native password database).

Are there any plugins for KeePassX?

There is no interface build in to support plugins. Therefore, no plugins available.

Installation
  • ผ่าน Ubuntu Software Center ค้นหาด้วยคำว่า password เจอเยอะแยะเลย หรือ
$ sudo aptitude install keepassx

Refer

E: Sub-process /usr/bin/dpkg returned an error code (1)

  • เมื่อวานนั่งหาโปรแกรมจัดการพาสเวิร์ดบน Ubuntu Software Center ไปเจอหลายตัวเลย
  • เช่น Password Gorilla, Password Manager, Revelation Password Manager, KeePassX และอื่นๆ อีกค่อนข้างเยอะ
  • ที่น่าใช้ก็ Password Gorilla และ KeePassX บน windows 7 ก็ใช้ KeePass 2.x อยู่เลย
  • เพราะว่า 2 ตัวนี้จะมีการสร้างไฟล์ฐานข้อมูลทำให้เก็บไฟล์นี้ไปใช้กับเครื่องอื่นๆ ได้ ส่วนที่เหลือใช้ไม่เป็นหว่า
  • ที่นี้ก็จะทำการถอนโปรแกรมตัวอื่นที่ลองแล้วไม่ถูกใจออก จัดการเลย Revelation ตัวแรก ผ่าน Ubuntu Software Center
  • ปัญหาก็เกิดขึ้น error ขณะถอนซะงั้น เปลี่ยนไปถอนผ่าน Synaptic ก็แล้ว สั่งผ่าน 'apt-get remove revelation' ก็ error
jui@HOST:~/Desktop$ sudo apt-get remove revelation
Reading package lists... Done
Building dependency tree
Reading state information... Done
The following packages were automatically installed and are no longer required:
cracklib-runtime libcrack2
Use 'apt-get autoremove' to remove them.
The following packages will be REMOVED:
revelation
0 upgraded, 0 newly installed, 1 to remove and 0 not upgraded.
1 not fully installed or removed.
After this operation, 1,724kB disk space will be freed.
Do you want to continue [Y/n]? y
(Reading database ... 174654 files and directories currently installed.)
Removing revelation ...
Traceback (most recent call last):
File "/usr/bin/pycentral", line 2196, in <module>
main()
File "/usr/bin/pycentral", line 2190, in main
rv = action.run(global_options)
File "/usr/bin/pycentral", line 1645, in run
pkg = DebPackage('package', self.args[0], oldstyle=False)
File "/usr/bin/pycentral", line 381, in __init__
self.read_pyfiles()
File "/usr/bin/pycentral", line 414, in read_pyfiles
self.pkgconfig.set('pycentral', 'include-links', '0')
File "/usr/lib/python2.6/ConfigParser.py", line 669, in set
ConfigParser.set(self, section, option, value)
File "/usr/lib/python2.6/ConfigParser.py", line 377, in set
raise NoSectionError(section)
ConfigParser.NoSectionError: No section: 'pycentral'
dpkg: error processing revelation (--remove):
subprocess installed pre-removal script returned error exit status 1
Traceback (most recent call last):
File "/usr/bin/pycentral", line 2196, in <module>
main()
File "/usr/bin/pycentral", line 2190, in main
rv = action.run(global_options)
File "/usr/bin/pycentral", line 1481, in run
pkg = DebPackage('package', self.args[0], oldstyle=False)
File "/usr/bin/pycentral", line 381, in __init__
self.read_pyfiles()
File "/usr/bin/pycentral", line 414, in read_pyfiles
self.pkgconfig.set('pycentral', 'include-links', '0')
File "/usr/lib/python2.6/ConfigParser.py", line 669, in set
ConfigParser.set(self, section, option, value)
File "/usr/lib/python2.6/ConfigParser.py", line 377, in set
raise NoSectionError(section)
ConfigParser.NoSectionError: No section: 'pycentral'
dpkg: error while cleaning up:
subprocess installed post-installation script returned error exit status 1
Errors were encountered while processing:
revelation
E: Sub-process /usr/bin/dpkg returned an error code (1)
  • ใช้ 'apt-get -f install' and/or 'dpkg --configure --pending' แล้วสั่ง remove ตัวนี้ยังไงก็ error
  • มีกรรมจริงๆ เราก่อนหน้านี้ก็ปัญหาเรื่อง ATI Radeon พึ่งจบไปก็เจอปัญหาอื่นอีกแหละ
  • มันถอนไม่ได้เลยไม่ถอนสักพัก ที่นี้จะลงโปรแกรม และถอนโปรแกรมอื่นๆ เลย สามารถติดตั้ง หรือ ถอนได้นะ แต่จะขึ้น error เกี่ยวกับ revelation ซะงั้น
  • ทั้งที่ไม่ไปยุ่งแล้วนะ สุดท้ายก็ไปเจอวิธีแก้ error เนี๋ย
โดย
  • เข้าไปที่ /var/lib/dpkg/info and deleting everything that had that name
  • คือเข้าไปตามพาธ /var/lib/dpkg/info แล้วทำการลบไฟล์ที่ขึ้นต้นด้วย revelation ซะเลย
sudo rm -f /var/lib/dpkg/info revelation*
  • แล้วก็ตามด้วย
sudo apt-get remove revelation
  • ก็จะไม่เกิด error ดังเช่นด้านบนแหละ วิธีแก้ไขอันนี้เค้าว่า "It is THE WRONG THING to do."
Thanked: 31 Quote: Originally Posted by feral-deb View Post I had a similar problem and what i found that worked for me was going into /var/lib/dpkg/info and deleting everything that had that name You deleted the pre and post install scripts. This can very easily mean that the package will not be installed properly, and it won't be removed properly if you choose to uninstall it. It is THE WRONG THING to do.

"Using 'apt-get -f install' and/or 'dpkg --configure --pending' are what you should do. If your problems persist, try to read and understand the .postinst script for the problematic package and check for bugs reported against that packge. Failing that, ask for help and/or report a bug."
  • ไม่รู้แปลว่าไง ^^' แต่ remove ได้ไม่ error ก็พอแหละ

อ้างอิง

Thursday, November 26, 2009

Grub2 Splash image on Ubuntu 9.10

  • จำได้ว่า Grub ก่อนหน้าปรับความละเอียดเป็น 1024 x 768 ไม่ได้นะ
  • แต่ Gurb2 ทำได้แฮะ เลยทำให้ใส่ภาพความละเอียด 1024 x 768 ได้พอดีไม่ต้องปรับแต่งอาไร
วิธีเปลี่ยนพื้นหลัง Grub2

1. ปรับความละเอียด Grub โดยใช้ startup-manager ให้เป็น 1024 x 768 ติดตั้งด้วยคำสั่ง
$ sudo apt-get install startupmanager
* โปรแกรมจะอยู่ที่ System = Administration = StartUp-Manager
2. จากนั้นให้เรานำภาพขนาด 1024 x 768 ที่จะใช้เป็นพื้นหลัง Grub เราไปวางที่ /boot/grub/ ซึ่งนามสกุลที่รองรับจะมี png,tga เห็นในรายละเอียดในไฟล์นี้อ่ะนะ /etc/grub.d/05_debian_theme สมมุติว่าให้ไฟล์ภาพชื่อว่า my_grub_picture.tga

3. แก้ไขไฟล์คอนฟิก /etc/grub.d/05_debian_theme สักหน่อยเปิดไฟล์ด้วยคำสั่ง
$ gksudo gedit /etc/grub.d/05_debian_theme
  • มองหาประโยคประมาณนี้
for i in {/boot/grub,/usr/share/images/desktop-base}/moreblue-orbit-grub.{png,tga} ; do
  • ให้เราทำการเปลี่ยนคำว่า moreblue-orbit-grub เป็นชื่อไฟล์ภาพเราในที่นี้คือ my_grub_picture ซึ่งจะได้แบบนี้
for i in {/boot/grub,/usr/share/images/desktop-base}/my_grub_picture.{png,tga} ; do
4. ทำการอัพเดท Grub ด้วยคำสั่ง
sudo update-grub2

เพิ่มเติม

  • เราสามารถแก้ไข background และ hilight text color โดยผ่านไฟล์ /etc/grub.d/05_debian_theme เช่นกัน
  • จะมีสองกรณี กรณีที่เราไม่มี background และมี background สองตำแหน่ง

อ้างอิง

QStarDict ดิกชั่นนารี Icon สวยกว่า StarDict

  • โพสนี้ไม่มีอาไรแค่หาโปรแกรม Dictionary ที่คล้าย StarDict
  • ใช้ Ubuntu Software Center หาไปเจอตัวนี้ QStarDict ไอคอนสวยดี เทียบกับ StarDict ทางขวา
  • ซึ่งตัวนี้มันรองรับ dictionaries ของ StarDict ด้วย
  • scan คำที่เราไฮไลได้เหมือนกัน
  • แต่เสียอย่างเสียงไม่ออกหว่า แต่ StarDict เสียงยังออกไม่ค่อยชัดอ่ะนะ เรื่องเสียงจึงไม่ห่วง
วิธีเพิ่มคำศัพท์
  • ใน folder /home/jui/.qstardict/pluginsdata/stardict จะมีไฟล์ settings.ini
[StarDict]
dictDirs=/usr/share/stardict/dic, /home/jui/.stardict/dic
reformatLists=true
expandAbbreviations=true
  • การเพิ่มคำศัพท์ให้ stardict เราจะก๊อป folder คำศัพท์ไปวางที่ /usr/share/stardict/dic
  • ซึ่ง qstardict จะใช้คำศัพท์เหล่านั้นเช่นกัน แต่เราสามารถเพิ่ม หรือ เปลี่ยนพาธที่วางคำศัพท์ได้
dictDirs=/usr/share/stardict/dic, /home/jui/.stardict/dic, /home/jui/.qstardict/dic
  • เป็นต้นจากนั้นเราก็ก๊อปคำสั่งไปวางที่นี่ /home/jui/.qstardict/dic ได้เลยครับพี่น้อง

เพิ่มเติม
  • QStarDict เนี๋ยมัน QT version ของ StarDict อ่ะนะ
  • เราต้องปิด โปรแกรมก่อนทำการแก้ไขไฟล์ ini

อ้างอิง

Setting up a FTP Server on debian

ที่มา: http://tuts4tech.net/2009/07/14/setting-up-a-ftp-server-on-debian/

  1. Install vsftpd
    1apt-get install vsftpd
  2. Edit the file /etc/vsftpd.conf and make the following changes:
    1. Change Yes to No in the following line
      1Anonymous_enable = YES
    2. Uncomment the following lines by removing the #
      1#local_enable = YES
      2#write_enable = YES
      3#local_umask = 022
      4#chroot_local_user = YES

  3. Finally restart the vsftpd
    1/etc/init.d/vsftpd
  4. You and any of your users should now be able to FTP the server
เพิ่มเติม
  • คำสั่งสร้าง default folder สำหรับ anonymous user
sudo mkdir /srv/ftp & sudo usermod -d /srv/ftp ftp
  • local_enable = YES คือเปิดให้ user ในระบบ login เข้าใช้ FTP ได้
  • write_enable = YES คือ เปิดให้คนใช้ FTP เขียนไฟล์ลง FTP ได้
  • local_umask = 022 คือ เป็นการตั้งค่า permission ให้ไฟล์หรือไดเร็คทอรี่ใหม่ใน FTP Folder
  • chroot_local_user = YES เป็นการตั้งค่าให้ user ในระบบใช้ home ตัวเองเป็น defautl folder FTP
  • Anonymous_enable = YES เปิดให้คนทั่วไปใช้งาน FTP ได้

Related

Change default Grub2 in Ubuntu 9.10

  • ที่เคยทำมาตั้งแต่ ubuntu 9.04-- ลงไปก็ไปแก้ที่ไฟล์ /boot/grub/menu.lst ที่ทำบ่อยๆ นะ
  • แต่ไง๋ ubuntu 9.10 ไม่มี menu.lst หว่าแล้วเราจะเปลี่ยนยังไงล่ะเนี๋ย ที่ไฟล์ใหนล่ะเนี๋ย
  • ลืมไป karmic เค้าใช้ Grub2 นี่หว่า
  • ใน /boot/grub/ เห็นไฟล์ grub.cfg ด้วยหว่า มี set default="0" ให้เปลี่ยนด้วยแฮะ
  • เอ้ะ แต่คอมเม้นด้านบนเค้าบอกว่า
#
# DO NOT EDIT THIS FILE
#
# It is automatically generated by /usr/sbin/grub-mkconfig using templates
# from /etc/grub.d and settings from /etc/default/grub
#
  • เค้าบอกมันถูกสร้างอัติโนมัติจาก grub.d ซะงั้น
  • และ เค้าก็บอกให้เราไปแก้ไขที่ไฟล์ /etc/default/grub แทน
  • เปิดไฟล์ /etc/default/grub ด้วยคำสั่ง
$ sudo gedit /etc/default/grub
  • มีคอมเม้นด้านบนด้วยแฮะ
# If you change this file, run 'update-grub' afterwards to update
# /boot/grub/grub.cfg.
  • เค้าบอกว่าถ้าเราเปลี่ยนแปลงไฟล์นี้ให้เรารันคำสั่ง 'update-grub' จะเป็นการอัพเดทไฟล์ /boot/grub/grub.cfg อีกที
$ sudo update-grub

เพิ่มเติม
  • เราสามารถแก้ default ที่ไฟล์ /boot/grub/grub.cfg ได้โดยตรงแต่ต้องแก้สิทธิ์การเข้าถึงก่อน
  • แต่ถ้าเราสั่ง update-grub ค่าที่เราได้แก้ก็จะหายไปนะ

อ้างอิง

Tuesday, November 10, 2009

Gparted UI Thai in Ubuntu 9.10

  • ผลงานแปลชิ้นแรกเราก็ออกสู่สายตาตัวเองอย่างเป็นทางการใน Gparted ติดตั้งผ่าน Ubuntu 9.10
  • ภูมิใจอย่างแรง ที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของโอเพนซอสของประเทศไทยเรา

เพิ่มเติม
  • ตอนติดตั้ง Ubuntu 9.10 ควรติดตั้งด้วยภาษา English จะดีที่สุด
  • หลังจากติดตั้งเสร็จให้เราทำการ sudo apt-get update สักหน่อย แล้วค่อยเปิด Ubuntu Software Center ถ้าเราติดตั้งแบบใช้ภาษาไทยเรา source.list จะมี repository ต่างกันกับติดตั้งแบบภาษาอังกฤษ หว่าทำให้ sudo apt-get update ให้ตายก็ไม่สามารถติดตั้ง Gparted ผ่าน Ubuntu Software Center
  • เช่นเดียวกับ ATI Driver ก็จะไม่สามารถ Activated ได้ถ้าเราไม่ sudo apt-get update
  • ย้ำอีกรอบถ้าไม่อยากเพิ่ม reposiotory ทีหลังติดตั้งด้วยภาษาอังกฤษจะ เข้าท่าที่สุดนะ
  • อีกอย่าง เราต้องตั้งระบบให้เมนูทุกอย่างเป็นไทยก่อนนะ โดยเพิ่มภาษาได้ที่ System - Administration - Language Support - Install / Remove Languages หลังจากนั้น เมื่อเข้าสู่หน้า Login เราก็เลือกภาษาไทยเราซะ
  • ถ้าเรา Login เข้าด้วย English อยากใช้โปรแกรม locale thai ก็
  • ให้เรา sudo -i เครื่องหมาย $ จะเปลี่ยนเป็น # แล้วเราค่อยสั่ง

# LANG=th_TH.UTF-8 gparted
  • เราสามารถใช้ locale ได้กับทุกโปรแกรม แต่คิดว่าต้องจัดการ
  • ใช้ $ sudo LANG=th_TH.UTF-8 gparted ภาษาไม่เปลี่ยนให้หว่า สรุปเปลี่ยน $ เป็น # ก่อน

Sunday, November 8, 2009

This Love - Maroon 5



I was so high I did not recognize
The fire burning in her eyes
The chaos that controlled my mind
Whispered goodbye and she got on a plane
Never to return again
But always in my heart

This love has taken its toll on me
She said Goodbye too many times before
And her heart is breaking in front of me
I have no choice cause I won't say goodbye anymore

I tried my best to feed her appetite
Keep her coming every night
So hard to keep her satisfied
Kept playing love like it was just a game
Pretending to feel the same
Then turn around and leave again

This love has taken its toll on me
She said Goodbye too many times before
And her heart is breaking in front of me
I have no choice cause I won't say goodbye anymore

I'll fix these broken things
Repair your broken wings
And make sure everything's alright
My pressure on her hips
Sinking my fingertips
Into every inch of you
Cause I know that's what you want me to do

เนื้อเพลงจาก

Saturday, November 7, 2009

Review ASUS F81Se VX200D with Ubuntu 9.10

รีวิว ASUS F81Se VX200D กับ Karmic koala
  • ว่าจะลงตั้งนานแหละ มัวยุ่งกับเจ้า Windows 7 นานไปหน่อยเลยไม่มีเวลา
  • อ่านคนอื่นเค้ารีวิว กับ NB เค้า แล้วอยากรีวิวเองมั่ง
  • วันนี้ว่างจัด เลยเก็บรายละเอียด 9.10 กับ F81Se VX200D ของเราซะหน่อย

การติดตั้งระบบ
  • ติดตั้งผ่าน USB ได้ไม่มีปัญหาอาไร
  • ผ่านแผ่น CD คงไม่มีปัญหาอาไรแน่นอน

การ์ดจอ
  • เน็ต 3 MB TOT ทำไมติดตั้ง Activated ATI Driver ช้าโคตะระ เลยครับ
  • ไม่แนะนำให้ติดตั้งด้วย ati-driver-installer-9-8-x86.x86_64.run เค้ามีให้เรา Activated อยู่แล้วอ่ะนะ คือ ถ้าจะโหลดก็ให้โหลดเวอร์ชั่นล่าสุดจริงๆ น่าจะไม่มีปัญหานะคิดว่า
  • แต่พอปรับ Resolution เป็น 1024 X 768 หน้า Login ไม่ปรับตามเหมือนเคย

เสียง

กล้อง (Webcam)
  • ใช้ Cheese ทดสอบใช้งานได้ไม่มีปัญหาเลย

พอร์ต (Any port)
  • HDMI ไม่ได้ทดสอบ ไม่แน่ใจว่าใช้ได้ปะ ไม่รู้จะทดสอบกับอาไร - -'
  • Card Reader และ USB ใช้ได้ปกติเสียบปุ๊ปติดปั๊ป
  • CD ROM โอเค
  • Sound เสียบหูฟัง เสียงออกหูฟัง ไม่ออกลำโพงปกติ

บลูทูธ
  • สแกนเจอ Nokia ของเรา ไม่มีปัญหา แต่ยังไม่ได้ลองส่งไฟล์

เครือข่าย
  • ไวเลส (WLAN) และ อีเทอร์เน็ต (LAN) ลงระบบเสร็จใช้ได้เลย ไม่ต้องปรับอาไร
ตัวชี้ (Touchpad )

ลายนิ้วมือ Authen by Fingerprint
  • เปิดใช้งานไม่เป็นหว่า ต้องคอนฟิกไงล่ะเนี๋ย

คีย์ลัด (Fn + FXX) ที่ใช้บ่อย
  • F12 WLAN + Blutooth โอเค
  • F5,6 เพิ่มลดแสง โอเค
  • F8 สลับหน้าจอ ยังไม่ลอง
  • F9 ใช้งานไม่ได้หว่า (หรือเราเปิดใช้งานไม่เป็นแน่ๆ เลย)
  • F10,11,12 ปิด, เพิ่ม - ลด เสียง โอเค

สัญญาณไฟ
  • ขึ้นแป่งๆ ไงก็ไม่รู้ ของ WLAN อ่ะนะ

เพิ่มเติม
  • ตอนติดตั้ง Ubuntu 9.10 ควรติดตั้งด้วยภาษา English จะดีที่สุด
  • หลัง จากติดตั้งเสร็จให้เราทำการ sudo apt-get update สักหน่อย แล้วค่อยเปิด Ubuntu Software Center ถ้าเราติดตั้งแบบใช้ภาษาไทยเรา /etc/apt/sources.list จะมี repository ต่างกันกับติดตั้งแบบภาษาอังกฤษ หว่าทำให้ sudo apt-get update ให้ตายก็ไม่สามารถติดตั้ง ซอร์ฟแวร์ใน repository หลักของ Karmic koala เช่น Gparted ผ่าน Ubuntu Software Center
  • เช่นเดียวกับ ATI Driver ก็จะไม่สามารถ Activated ได้ถ้าเราไม่ sudo apt-get update (ติดตั้งแบบภาษาอังกฤษ)
  • ย้ำอีกรอบถ้าไม่อยากเพิ่ม reposiotory ทีหลังติดตั้งด้วยภาษาอังกฤษจะ เข้าท่าที่สุดนะ

บทความที่เกี่ยวข้อง

Thursday, November 5, 2009

You must use "Turn Windows features on or off" in the Control Panel to install or configure Microsoft.NET Framework 3.5 SP1

You must use "Turn Windows features on or off" in the Control Panel to install or configure Microsoft.NET Framework 3.5 SP1.
  • พยายามลง SQL Server 2008 Express บน Windows 7
  • เคยลงใน Vista ต้องติดตั้ง Framework 3.5 SP1 ก่อนถึงจาลงได้
  • แต่ Windows 7 เนี๋ยต้องติดตั้งผ่าน Windows features อ่ะนะ


อ้างอิง

Wednesday, November 4, 2009

ASUS F81Se and Windows 7 set any resolution full screen

ปัญหา
  • ปัญหาคือ ใช้ Asus F81Se VX200D ติดตั้ง Windows 7 Professional
  • ความละเอียด เริ่มต้นจะเป็น 1366 x 768 อันนี้น่ะ จะเต็มหน้าจอโน๊ตบุ๊คเราพอดี
  • แต่พอปรับเป็น ความละเอียดที่ต่ำกว่าความละเอียดเริ่มต้น การแสดงผลไม่เต็มหน้าจอโน๊ตบุ๊คซะงั้น
  • ไม่เคยเจอปัญหาแบบนี้เลย เพราะ แต่ก่อนใช้ Compaq Presario V3723AU (Nvidia on board)ลง vista หรือ seven ก็ไม่มีปัญหา
  • หรือว่าจะใช้ VX200D เราเนี๋ยลง vista ปรับความละเอียดเท่าใหร่ การแสดงผลก็เต็มจอเสมอ
  • แต่ทำไม VX200D เราใช้กับ Windows 7 ปรับความละเอียดต่ำกว่า 1366 x 768 แสดงผลไม่เต็มจอซะงั้น

วิธีแก้ไข
  • เข้าไปที่ ATI Control Center เรา
  • ที่ Graphics เลือก Desktops & Displays
  • ที่ด้านล่างซ้ายคลิกที่รูป NB แล้วเลือก Configure...
  • ที่ Scaling Options ค่าเริ่มต้นจะเป็น Centered ให้เราปรับเป็น Full Screen
  • เราทำการตั้งค่าแบบนี้ เมื่อปร้บความละเอียดที่ต่ำกว่าค่าเริ่มต้น 1366 x 768
  • การแสดงผลก็จะเต็มจอแหละ

สรุป

  • ASUS F81Se VX200D ลง Windows 7 ปรับ จากนั้นปรับความละเอียดต่ำกว่าค่าเริ่มต้น 1366 x 768
  • ทำให้การแสดงผลไม่เต็มจอ
  • เราสามารถ ปรับภาให้เต็มจอได้โดย ตั้ง Scaling Options ที่ ATI Control Center ให้เป็น Full Screen ได้

อ้างอิง

Wednesday, October 28, 2009

Game Controllers in Vista

  • วันก่อนไปซื้อ joy ที่พันธ์ทิพย์ เพื่อมาเล่นเกมส์อ่ะนะ
  • ทั้งรุ่นแบบ ปุ่มทิศทางที่เป็น กลมๆ 80 บาท และรุ่น 60 บาท ยี่ห้ออาไรไม่ค่อยคุ้นเลย
  • วันแรกที่ซื้อมา ก็จัดการเสียบ พร้อมเล่น Street Fighter IV ทำไมไปถึงหน้าเลือก character มัน วิ่งไปวิ่งมางั้นหว่า (แนวนอนอ่ะนะ วิ่งไม่หยุดเลย เป็นไรวะ) พอลองเปลี่ยนไปเล่น เกม super famicom ก็เหมือนกัน ปุ่มทิศทาง แนว x เหมือนจะ มีปัญหาซะแหละ คิดว่าต้องเอาไปเปลี่ยนก่อนแหละ เพราะเค้าประกัน 3 เดือน
  • รุ่น 60 บาทก็เล่นได้ปกติไม่มีปัญหา แต่ทำไม 80 บาทเรามีปัญหาซะงั้น
  • วันต่อมาก็กลับไปร้านที่ซื้อนั่นแหละ ไปบอกเค้าว่า joy แกน x มันค้าง
  • เค้าก็เปิดคอม OS Xp อ่ะนะ ขึ้นมาแล้วก็เค้าไปที่อาไรไม่รู้ จากนั้นเค้าก็บอกว่า มันไม่มีปัญหาอาไรนิครับ
  • กำเค้าเปิดตัวทดสอบ game controllers ขึ้นมาทดสอบ เราก็เห็นนะ ว่าทิศทางทุกปุ่ม ปกติไม่ได้มีปัญหาอาไร
  • เราก็ยังไม่เชื่อเค้า ก็บอกต่อไปว่า คุณมีเกมส์ในเครื่องมั้ยล่ะ เปิดขึ้นมาเล่นดูดิ
  • เค้าก็ตอบว่า ไม่มีอ่ะ เพราะเค้าจะทดสอบกับ game controllers แค่นั้นแหละ
  • เค้าก็อธิบายต่อว่า อาจจะเป็นกับ driver ก็เป็นได้ อืมก็น่าจะเป็นไปได้
  • เราก็เดินออกจากร้านด้วยความเซง เป็ด คิดว่า เสียดายตังค์จังเลย
  • พอกลับมาถึงก็ restore ghost ที่เราทำไว้ของ vista sp2
  • ลองลงเกมส์ เสียบ joy ที่เราจะไปเปลี่ยนนั่นแหละ เปิด game controllers ขึ้นมาทดสอบเหมือนที่เค้าทำให้
  • เราดูใน Xp อ่ะนะ ปุ่มทิศทางก็โอเคนี่นา
  • ที่นี้ก็ลอง เปิดเกมส์เล่นดู เฮ้ย เล่นได้ปกติไม่มีปัญหาซะงั้น
  • เกือบหน้าแตกแล้ว เราถ้าเค้าเปิดเกมส์เล่นให้เราดู ก็คงเล่นได้ปกติ อ่ะนะ
  • สรุป สาเหตุคือ ยังไม่ค่อยชัวร์เลยว่าเป็นกับอาไร
  • เหตุการณ์นี้สอนให้เรา ใช้สติให้มากๆ กับทุกเหตุการณ์ อย่าพึ่งโวยวายไป
  • กว่าจะรู้สาเหตุจริงๆ

Tuesday, October 27, 2009

[Not yet] Screen resolution of Windows 7 on ASUS F81Se VX200D

  • ลง Windows 7 Ultimate RTM พอติดตั้งเสร็จ
  • ทำไม resolution มันละเอียดมากเลย
  • พอจะปรับเป็น 1024X768 หน้าจอ แนวนอน บีบเล็กลง ไม่เต็มจอ ซะงั้น
  • แต่ Compaq Presario V3723AU ยังใช้ได้ปกติเลยอ่ะ
  • จะแก้ยังไงดีแฮะ ลองใช้ driver ซึ่งไปโหลดจากเว็บ asus ของรุ่นเนี๋ยซึ่งจะมีสำหรับ windows 7 ด้วย
  • พอลงเสร็จ ปรับ resolution ดูก็ จอเล็กลงเหมือนเดิมอ่ะ

Unlock all character Street Fighter IV

  • วันก่อนนั่ง ลงเกมส์ Street Fighter IV เล่นได้ปกติ ทั้ง 1 - 2 player
  • แต่ character เหลือช่องว่างหว่า เลยขึ้นว่า มันโดน lock ไว้แน่นอน
  • ภาพที่เห็นเนี๋ย ได้ทำการปลดล็อคแล้วอ่ะนะ
การปลดล็อคตัวละคร

Method 1
  • เล่นให้ผ่าน คือ เราใช้ตัวละครเล่น arcade mode อ่านเพิ่มเติมที่นี่

Method 2
  • ใช้โปรแกรมช่วย SF4 PC - Unlock
  • วิธีใช้โปรแกรมช่วยก็มีในวิดีโอในไฟล์แหละ

Explain method 2
  • เปิดเกมส์ Street Fighter IV ขึ้นมาก่อนเลย
  • จากนั้นเปิด Cheat Engine แล้วกดที่
  • เลือกไปที่ process ตัวนี้ StreetFighterIV.exe
  • จากนั้นกดที่ Load (Ctrl + O) เปิดไปที่ไฟล์
  • จากนั้นที่ด้านล่างให้เรา ปรับค่า value ให้เป็น 1 ทั้งหมด (Ctrl + A แล้วเปลี่ยนค่าในคราวเดียวได้เลย)
  • แค่นี้เราก็สามารถใช้ตัวละคร ที่ซ่อนอยุ่ได้แล้ว

เพิ่มเติม
  • เราสามารถ สร้างโปรไฟล์ ไว้เพื่อทำการบันทึกการปรับค่าต่างๆ (ไม่จำเป็นต้องใช้ Window Live ID)
  • ซึ่งถ้าเราสร้างโปรไฟล์เสร็จ เข้าเล่นเกมสักหน่อย แล้วระบบเกมส์ จะทำการบันทึกค่าให้โปรไฟล์นี้
  • เมื่อเราเปิดเกมส์ อีกรอบทำให้เราไม่ต้อง มานั่ง unlock อีก

อ้างอิง

เปิด PES2010 แล้วไมขึ้นงี้หว่า


This application has failed to start because d3dx9_37.dll was not found.
Re-installing the application may fix this problem.
  • ซึ่งจำได้ว่า ก่อนหน้านี้ ลง PES2010 บน Vista SP2 แล้วก็ไม่เห็นขึ้นงี้เลยอ่ะ
  • สงสัย library ตัวนี้ จะมากับ framework 3.5 sp1 หรือป่าวหว่า หรือยังไงเนี๋ย

Thursday, October 22, 2009

[Not yet] มีปัญหากับ Reporting Service บน IIS7 Vista&7


Server Error in Application "DEFAULT WEB SITE/BACKEND"

Internet Information Services 7.0
Error Summary
HTTP Error 404.0 - Not Found
The resource you are looking for has been removed, had its name changed, or is temporarily unavailable.
Detailed Error Information
Module IIS Web Core
Notification MapRequestHandler
Handler StaticFile
Error Code 0x80070002
Requested URL http://localhost:80/backend/Reserved.ReportViewerWebControl.axd?OpType=DocMapReport&ClientController=ClientControllerReportViewer1&ReportUrl=%2fbackend%2fReserved.ReportViewerWebControl.axd%3fMode%3dtrue%26ReportID%3d49ad56d214954d6488208ae99eda1d52%26ControlID%3da72b5b1dce704ad0aadce6cd9fde6854%26Culture%3d1033%26UICulture%3d9%26ReportStack%3d1%26OpType%3dReportArea%26Controller%3dClientControllerReportViewer1%26PageNumber%3d1%26ZoomMode%3dPercent%26ZoomPct%3d100%26ReloadDocMap%3dtrue%26SearchStartPage%3d0%26LinkTarget%3d_top
Physical Path D:\Works\Doing\backend\Reserved.ReportViewerWebControl.axd
Logon Method Anonymous
Logon User Anonymous
Most likely causes:

* The directory or file specified does not exist on the Web server.
* The URL contains a typographical error.
* A custom filter or module, such as URLScan, restricts access to the file.

Things you can try:

* Create the content on the Web server.
* Review the browser URL.
* Create a tracing rule to track failed requests for this HTTP status code and see which module is calling SetStatus. For more information about creating a tracing rule for failed requests, click here.

Links and More Information This error means that the file or directory does not exist on the server. Create the file or directory and try the request again.

View more information »


  • Web app รันได้ปกติบน IIS7 vista + w7 และ รัน crystal report ได้ไม่มีปัญหา
  • แต่ทำไมรัน local report แล้วขึ้นแบบนี้หว่า
  • error ด้านบนเป็นของ IE8 (ตอนแรกก็เป็นเหมือนอันล่างนะ แต่ไปปรับค่าอาไรจำไม่ได้ให้ IE8 เลยเปลี่ยนหน้า Error เป็นหน้า ว่างป่าว ไม่โชว์ภาพไอคอน viewer)
  • error ที่สองด้านล่างเป็นของ FF3.5 เปิดแล้วเป็นงี้
  • ทำไมเราเปิด Web app นี้ผ่าน VS2008 (Run as admin...) แล้วทำการออกรายงาน local report ก็ออกได้ปกตินี่น่า ใครรู้ช่วยบอกที
  • อีกอย่าง ลองสร้าง local report ง่ายๆ รันบน iis7 vista ไม่ได้พอนำไปรันบน server 2003 รันได้ซะงั้น
  • อีกอย่าง report service ก็เป็นเหมือนกัน อ่ะ - -'
  • ใครรู้ช่วยบอกทีคับพี่น้อง

Wednesday, October 21, 2009

'TRUNCATE_ONLY' is not a recognized BACKUP option

  • when i use backup query of my friend in sql server 2008 express (from old sql server 2005 can use this query) can't use this query and return error follow this message
Msg 155, Level 15, State 1, Procedure backup_store_name, Line 55
'TRUNCATE_ONLY' is not a recognized BACKUP option.

Solved

  • i comment this code in query for solved this error message
--BACKUP LOG dbname WITH NO_LOG
--BACKUP LOG dbname WITH TRUNCATE_ONLY
--DBCC shrinkdatabase(dbname, TRUNCATEONLY )

Reference

Tuesday, October 20, 2009

Failed to map the path '/'

Exception Details: System.InvalidOperationException: Failed to map the path '/'.
  • จำได้ว่าใช้ VS2005 รัน ASP.NET โปรเจคนี้ ใช้งาน web app นี้ได้ ออกรายงาน local report ได้
  • แต่ใช้ IIS7 ออกรายงาน Local report ไม่ได้
  • แต่ทำไมเรมใช้ VS2008 เปิดโปรเจคนี้ รันทำงานได้ปกติ ติดอย่างเดียวคือ ออกรายงานด้วย report service แบบ local ไม่ได้ซะงั้น เป็นไรหว่า ทั้งที่ไม่ได้ upgrade ไปใช้ framework 3.5 (use old framework 2.0 of VS2005) อ่ะ และตัว Target Framework ก็ตั้งเป็น 2.0 อยู่อ่ะ
  • ตอนแรกนึกว่าเป็นกับ VS2008 หรือไม่ก็เป็นเรื่อง permission หรือ web.config อาไรประมาณนั้น
  • ถูกด้วยแฮะ เรื่อง permission นั่นแหละ แต่ไม่ใช้ permission ของ foler web นะ แต่เป็นของ permission ตอนเปิด VS2008 เราต้อง Run as administrator แล้วจึงทำการเปิดโปรเจค
  • ก็จะทำให้ Local Report เราออกรายงานได้ เย่
  • แต่ยังงงอย่าง เราสร้าง vitual host สำหรับให้เครื่องอื่น เข้าใช้งานระบบจากเครื่องเรา แต่ทำไมออก รายงาน ด้วย Local report แล้วขึ้นงี้หว่า ต้องหาวิธีรันให้ได้ต่อไป
  • ตอนแรกก็แสดงดังรูปแรกขึ้นรายละเอียดเกี่ยวกับความผิดพลาดทั้ง IE8 และ FF3.5
  • แต่ตอนหลังไปตั้งค่าอาไรก็ไม่รู้จำไม่ได้ให้ IE8 ทำให้ออกรายงานเป็นรูปที่สอง คือ ไอคอน report ไม่ขึ้นและไม่ขึ้นรายละเอียดอาไรให้เรารู้เลย แต่ FF3.5 ยังขึ้นเหมือน รูปแรกอยู่

Solved

  • Exception Details: System.InvalidOperationException: Failed to map the path '/'.
  • ตอนเปิด VS2008 เราต้อง Run as administrator แล้วจึงทำการเปิดโปรเจค

Install Google Chrome offline

  • จำได้ว่าเวอร์ชั่นแรกๆ ของ Google Chrome เข้าให้เราดาวน์โหลดไฟล์ติดตั้ง ซึ่งขนาดไฟล์ก็เป็น M เลยนะ ซึ่งมากกว่าตอนนี้อยู่นี่น่า
  • แต่ ทำไมตอนนี้โหลดมาแค่ไม่กี่ k เองหว่า
  • ก็เพราะว่า เค้าให้เราติดตั้งผ่าน อินเทอร์เน็ต คล้าย windows live นั่นเอง
  • แต่เราสามารถดาวน์โหลด full package มาติดตั้งโดยไม่ต้องต่ออินเทอร์เน็ต ได้เช่นเดิม
  • จากลิ้งด้านล่างนี้ ที่มา
  • http://www.google.com/chrome/eula.html?standalone=1
  • http://www.softpedia.com/progDownload/Google-Chrome-Download-108166.html
Download Google Chrome Full Setup [ Offline Installer ]Download Google Chrome Full Setup [ Offline Installer ]
Download Google Chrome Full Setup [ Offline Installer ]อ้างอิง

Saturday, October 17, 2009

Install SQL Server 2008 Express on Windows Vista SP2

  • ตอนแรกเปิด รันตัวติดตั้งแทบไม่ได้เพราะ เค้าบอกว่าเครื่องไม่มี .NET Framework 3.5 SP1
  • ไปดาวน์โหลด .NET Framework 3.5 SP1 ได้จากที่นี่
Microsoft .NET Framework 3.5 Service Pack 1 2.8 MB ติดตั้งผ่าน อินเทอร์เน็ต
Microsoft .NET Framework 3.5 Service pack 1 (Full Package) อันนี้ไม่ต้องต่อเน็ต
  • พอติดตั้ง .NET Framwork 3.5 SP1 เสร็จแหละ ก็รันตัวติดตั้ง SQL Server 2008 Express ได้แล้ว แต่ยังไม่ได้ติดตั้งอาไรเลย พอมาเจอหน้าเนี๋ยไปต่อไม่ได้แหละ
  • เค้าบอกว่า Windows PowerShell เรามีปัญหา (เครื่องเราใช้ Vista จะไม่มี Windows PowerShell)
  • เราต้องไปติดตั้ง Windows PowerShell เอง
  • ดาวน์โหลด Windows PowerShell ได้เลย

PowerShell for Windows Vista RTM

x86: Windows Vista RTM

x64: Windows Vista RTM



เพิ่มเติม

  • ใครใช้ Windows 7 เค้าจะลง .NET Framework 3.5 SP1 และ Windows Powershell ให้เลยนะ

อ้างอิง