How to set https in XP with OpenSSL.
# ปกติเมื่อเราจะทำ https เราจะไปสร้างที่ windows server เพราะจะมี service เกี่ยวกับ certificate
# แต่บทยังความนี้จะเสนอ การทำ https โดยพึ่งแค่เครื่องเราเครื่องเดียวก็พอ ^^' แต่อาศัย OpenSSL
1. ดาวน์โหลด Win32OpenSSL-0_9_8g.exe
2. ติดตั้งเหมือนโปรแกรมปกติของ windows ทั่วไป
3. ก่อนอื่นเราต้องสร้าง new certificate request โดย
# คลิกขวา My Computer เลือก Manage
# ไปที่ Default Web Site คลิกขวา Properties ไปยังแท๊บ Directory Security
# คลิกที่ปุ่ม Server Certificate… จะปรากฏ Wizard ให้เราทำการสร้าง cer request
# “Create a new certificate” and “Prepare the request now, but send it later”. Next เรื่อยๆ
# กรอกๆ ไปให้เสร็จ เมื่อเสร็จแล้วจะได้ certreq.txt โดย default c:\certreq.txt
4. เมื่อเราสร้างไฟล์ certreq.txt แล้ว ให้เราใช้คำสั่งดังนี้เพื่อจะสร้าง key อาไรของมันนั่นอ่ะ ^^'
# เปิด Command Prompt แล้วพิมพ์ดังนี้
> cd c:\OpenSSL\bin
> openssl genrsa -des3 -out CA.key 1024
Loading 'screen' into random state - done
warning, not much extra random data, consider using the -rand option
Generating RSA private key, 1024 bit long modulus
..............++++++
.......++++++
e is 65537 (0x10001)
Enter PEM pass phrase:
Verifying password - Enter PEM pass phrase:
Verify failure
3940:error:0906406D:PEM routines:DEF_CALLBACK:problems getting password:.\crypto \pem\pem_lib.c:114: 3940:error:0906906F:PEM routines:PEM_ASN1_write_bio:read key:.\crypto\pem\pem_li b.c:367:
# มัน failure เพราะว่า ^^' ใส่เป็น 1234 ซะงั้นมันเลยไม่ผ่าน เปลี่ยนใหม่ให้ซับซ้อนขึ้นอ่ะถึงจาผ่าน
Loading 'screen' into random state - done
warning, not much extra random data, consider using the -rand option
Generating RSA private key, 1024 bit long modulus
.......++++++
..................++++++
e is 65537 (0x10001)
Enter PEM pass phrase:
Verifying password - Enter PEM pass phrase:
# ถ้าใส่คีย์ 2 ครั้งแล้วไม่แสดงข้อความอาไรแสดงว่าผ่านแหละ
# เมื่อผ่านแหละต่อเลยโดยสั่ง
> openssl req -new -key CA.key -x509 -days 1095 -out CA.cer
Using configuration from C:\OpenSSL\bin\openssl.cnf
Enter PEM pass phrase:
You are about to be asked to enter information that will be incorporated
into your certificate request.
What you are about to enter is what is called a Distinguished Name or a DN.
There are quite a few fields but you can leave some blank
For some fields there will be a default value,
If you enter '.', the field will be left blank.
-----
Country Name (2 letter code) [AU]:th
State or Province Name (full name) [Some-State]:bkk
Locality Name (eg, city) []:bkk
Organization Name (eg, company) [Internet Widgits Pty Ltd]:home
Organizational Unit Name (eg, section) []:home
Common Name (eg, YOUR name) []:jui
Email Address []:some@hotmail.com
# จาเป็นประมาณเนี๋ย คือ กรอกคีย์ ที่เคยกรอกในตอนแรก และมันจะมี wizard ให้เรากรอกเรื่อยๆ ก็กรอกซะ
# ไม่จำเป็นต้องกรอกเหมือนที่เราสร้าง certreq.txt
# หลังจากกรอก wizard command ด้านบนเสร็จต่อเลยด้วยคำสั่ง
> openssl x509 -req -days 730 -in c:\certreq.txt -CA CA.cer -CAkey CA.key -CAcreateserial -out SelfSignedCert.cer
CA.cer -CAkey
CA.key -CAcreateserial -out SelfSignedCert.cer
Loading 'screen' into random state - done
Signature ok
subject=/CN=home/OU=home/O=home/L=bkk/ST=bkk/C=TH
Getting CA Private Key
Enter PEM pass phrase:
# ผลจาประมาณเนี๋ย คือ มันจาถามคีย์ที่กรอกในตอนแรกเหมือนขั้นทุกขั้นตอน
5. ถ้าทุกอย่างโอเคจะได้ไฟล์ C:\OpenSSL\bin\SelfSignedCert.cer
6. คัดลอก SelfSignedCert.cer ไปไว้ที่ C:\ SelfSignedCert.cer ถ้าจะให้ดีก็คัดลอกไปอยู่ที่เดียวกันกับ certreq.txt
7. กลับไป ข้อ 3 เครื่องหมาย # ที่ 3 คลิกที่ Server Certificate… ทีนี้จะขึ้นไม่เหมือนเดิมแหละให้เลือก
# “Process the pending request and install the certificate”.
# ไปเลือกไฟล์ C:\ SelfSignedCert.cer ที่ได้สร้างไว้ แค่นี้ก็เสร็จแหละ
8. ส่วนถ้าเราต้องการบังคับให้ IIS ใช้เฉพาะ 443 ห้ามใช้ 80 มันก็ต้องติ๊กอาไรเพิ่มนิดหน่อย
# โดยในหน้าเดียวกับที่มีปุ่ม Server Certificate… จะมีปุ่ม Edit.. ที่เราสามารถคลิกมันได้แหละ
# คลิกมันซะ แล้วติ้กให้มีเครื่องหมายถูกที่ “Require secure channel (SSL)”
# แค่เนี๋ยก็จะใช้ http ธรรมดาไม่ได้แหละ
# เสร็จแหละดูผลงานกัน https://localhost/
### เพิ่มเติมปัญหาที่อาจพบเมื่อสั่ง > openssl genrsa -des3 -out CA.key 1024
- อาจจะพบปัญหาดังนี้ หรือ ไม่พบก็ได้ ^^'
- ถ้าขึ้นประมาณว่า "Can not excute" ได้ให้ลอง ดาวน์โหลดเวอร์ชั่นอื่นๆ ดู
- เราต้องใช้ library ของเวอร์ชั่นนั้นๆ นะ ไม่ใช่ลงเวอร์ชั่น ใหม่แต่ไปใช้ library เวอร์ชั่นที่ลงก่อนหน้า - -'
ที่มา : dotnetyuppie.com
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
Popular Posts
-
Font เลือกเป็น Wingdings 2 เครื่องหมายถูก Shift + P เครื่องหมายผิด Shift + O ซึ่งเราสามารถใช้ Font Wingdings 2 ใน OpenOffice เพื่อเพิ่มเครื...
-
คือเครื่องเสียงในบ้าน เป็นแบบมีรู Microphone 3 รูและ AUX (เสียงเข้าเครื่องเสียง) 2 ชุด มีไมค์ 1 ตัวและ AUX 1 ชุดเสียบสาย ปัญหาคือ พอเปิด ไม...
-
ขั้นแรกต้องตั้งค่าซองก่อนโดยไปที่ menu tab Start Mail Merge => Envelopes เลือก template size ได้ตามต้องการ หรือจะกำหนดขนาดเองเลยโดยเลือก ...
-
http://football.sodazaa.com/
-
ที่มา : http://www.pcthailand.com/th/index.php?option=com_content&view=article&id=64:-regedit-&catid=40:2009-07-02-10-59-36...
-
ปัญหาคือ เราเข้าเว็บไซต์ อันนี้แล้ว ปัญหาภาษาไทย มันแสดงเป็นต่างดาวซะงั้น Solved Options => Under the Hood => Web Content ค...
-
คือ จะใช้ printer ที่เค้าแชร์ไว้ แต่มันดันถาม User, password ซะงั้น ทั้งที่ Enable Guest แล้วนะ ไม่รู้ Guest เครื่องนั้นมีใครไปตั้งรหัสให้หร...
-
This summary is not available. Please click here to view the post.
-
อ้างอิง - http://www.sysnetcenter.com/board/index.php?topic=2028.0 <== อ่านเข้าใจง่าย ประเด็นมีอยู่ว่า เพื่อนที่ทำงานแนะนำ AP แบบ ใช้สำ...
-
nvarchar กับ varchar จะต่างกันตรง nvarchar จะเก็บตัวอักษรที่ใช้ code เป็น unicode ได้ ซึ่ง 1 ตัวอักษรจะใช้แค่ 2 byte ในการเก็บส่วน varchar...
No comments:
Post a Comment