Friday, March 28, 2014

Linux backup: hard disk clone with "dd"

  • ประเด็นมีอยู่ว่าพยายาม clone hard disk ที่มี OS 2 ตัว คือ windows 7 และ linux mint 16 และ อยาก clone GRUB2 ไปด้วย 
  • hard disk master มีขนาด 1 TB แบ่งเป็น ทำ backup ลงที่ external drive
  • sda1 = system recovery 
  • sda2 = drive c 
  • sda3 = drive d 
  • sda4 = / (ext4)
  • โดยใช้ norton ghost หรือ clonezilla 
  • ใช้ norton ghost จากแผ่น hiren 9.8 มัน  alert ก่อน backup หว่า ที่ลองทำวิธีนี้เพราะ สมัยเรียนเคย ghost linux ext3 ได้อยู่นี่น่า ถ้าจำไม่ผิด restore แล้ว reinstall grub กลับได้ด้วยนะ แต่ ext4 มันทำไม่ได้หรือ ต้องใช้ ghost เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด หรือยังไงหว่า (ขี้เกียจลองแค่นี้ก็เสียเวลาไปเยอะแหละ)
  • ดันทุรัง backup โดยไม่สน alert ลองแบบ disk to image พอทำ image  เสร็จแล้ว ลอง restore ดู ผลคือ hard disk ลูกนั้น บูตถึงหน้า จอดำๆ มี cursor กระพริบ ไปต่อไม่ได้เลย ครับพี่น้อง
  • ลองใช้ clonezilla ลองทั้้งแบบ disk to image หรือ part to image ตอน backup ทั้ง 2 แบบนี้ failed ที่ sda4 เหมือนกันเลย 
  • ดันทุรังเหมือนเคย ลองทำจนเสร็จ แล้ว restore แล้วพยายามจะ reinstall grub โดย boot-repair หรือแบบวิธีดั้งเดิมที่เคยทำมา มันก็ยังไม่ได้ เราทำได้แค่ restore mgr แค่นั้นเอง (boot-repair มันไม่มีให้ reinstall grub มีแต่ restore mbr หว่า) ทำเสร็จใช้ได้แต่ windows 7 ส่วน GRUB ไม่มีให้ใช้จ้า
Solved
  • เราจะทำแบบ clone device to device เลย ต่อ disk ทั้งสองตัว ที่ mainboard โดย disk master ต่อที่สาย SATA1 และ disk mirror ต่อที่สาย SATA2
  • บูตด้วย clonezilla เลือกเข้า shell command หรือ บูตด้วย Live CD/USB เปิด terminal แล้วพิมพ์คำสั่ง
sudo dd if=/dev/sda of=/dev/sdb
  • copied 1 TB ใช้เวลา 20897 วินาที หรือ ประมาณ 5 ชั่วโมง 8 นาที ทำไมมันใช้เวลาเยอะจัง

----------------------------------------------------------------------------------------------------------


Most of Windows users may know "Norton Ghost". Norton Ghost is a backup software for hard disks. It can backี่up a whole hard disk or a partition to an image file. Also, Norton Ghost can copy all the contents from a hard disk to another exactly. However, Norton Ghost is a Windows software, users on other operating system (such as Linux) can not enjoy its powerful function. Fortunately, most of Unix/Linux operating system provides a command line whose function is similar to Norton Ghost, it is called "dd".

In fact, "dd" is much powerful than Norton Ghost. You can use many arguments to control it. In this short article, we only concern on how to backup a whole hard disk or a partition.

Hard Disk Clone

Suppose you have a 40GB hard disk and a removable hard disk whose capacity is 60GB, and you want to backup all the files from the hard disk to the removable disk. With "dd", it is a very easy task. Again, suppose your hard disk's Unix device name is /dev/sda and the removable disk is /dev/sdb. The following command can copy all the content from /dev/sda to /dev/sdb:
dd if=/dev/sda of=/dev/sdb
Here, if=... sets the source and of=... sets the destination. "dd" doesn't care of the contents of the hard disk. It just reads bytes from /dev/sda and writes them into /dev/sdb. It doesn't know what are files. So, the hard disk file system and how many partitions it has are not important. For example, if /dev/sda is splitted into three partitions, the /dev/sdb will have the same partitions. i.e. "destination" is completely same with "source".
Notice: to execute "dd" you should login as "root" or switch to "root" using "su" command. And you must be careful, a small mistake may cause a serious problem!

Making a Hard Disk Image File

Most of time you don't want to make a complete duplication of your hard disk. You may prefer to creating an image file of the hard disk and save it in other storage devices. The following command will create an image file "disk1.img" in your user's directory from /dev/sda:
dd if=/dev/sda of=~/disk1.img
Since you have created an image file, you can compress it with "gzip" or "bzip2":
gzip disk1.img #generates disk1.img.gz or
bzip2 disk1.img #generates disk1.img.bz2
You can save much storage space with compression. But it will take very long time.

Partition Clone

Backing up a hard disk partition is much similar to backing up a whole hard disk. The reason is that Unix/Linux uses device name, such as /dev/sda1, /dev/sda5... to indicate the partitions. For example, if you want to create an image file from the first partition of /dev/sda, use "dd" like this:
dd if=/dev/sda1 of=~/disk2.img
Also, you can compress the image file:
gzip disk2.img
By the way, you can copy a partition to another partition completely, just set "of" to the partition's device name. For example:
dd if=/dev/sda1 of=/dev/sdb5
This command will copy all the contents from /dev/sda1 to /dev/sdb5. You must be sure that the capacity of /dev/sdb5 is larger than /dev/sda1.

Restoring from an Image File

To restore a partition or a hard disk from an image file, just exchange the arguments "if" and "of". For example, restore the whole hard disk from the image file "disk1.img":
dd if=disk1.img of=/dev/sda
Restore the first partition of /dev/sda from the image file "disk2.img":
dd if=disk2.img of=/dev/sda1

Wednesday, March 26, 2014

Clonezilla Live on USB flash drive or USB hard drive

ที่มา - http://clonezilla.org/liveusb.php

Some machine, e.g. Asus Eee PC or Acer Aspire One, comes without CD/DVD drive. In this case, an USB flash drive or USB hard drive is the best way to boot Clonezilla live. You can follow the following to make a bootable Clonezilla live USB flash drive or hard drive using either MS Windows or GNU/Linux.

Requirement:

  1. Microsoft Windows 2000/XP/Vista/7, or GNU/Linux.
  2. Internet access for downloading a distribution to install, or a pre-downloaded ISO file.
  3. An USB drive with a FAT partition.

USB setup with MS Windows

Choose one of the following methods to setup Clonezilla Live on your USB flash drive using MS Windows:

Method A
  • ดาวน์โหลด Tuxboot เปิดโปรแกรมขึ้นมา

  • เลือก image file ก่อนเลยว่าจะ ดาวน์โหลดมาแล้วสร้าง หรือ เรามีไฟล์ iso อยู่แล้ว ในที่นี้มีไฟล์ iso อยู่แล้ว ให้เรา Browse ไฟล์ iso 
  • Type: เลือกเป็น USB Drive และ Drive เลือก Flash drive ของเรา
  • สุดท้ายคลิก OK


  • คลิกที่ Exit ได้เลย

Tuesday, March 25, 2014

Make public key & private key authen by PuTTYgen on Windows

PuTTYgen (an RSA and DSA key generation utility)

  • ในตัวอย่างนี้จะใช้ puttygen บน Windows 8.1 ไม่แน่ใจว่า บน Linux มี puttygen หรือป่าว แต่คงไม่ใช่ปัญหาหรอก ถ้าไม่มี เพราะบน linux มีคำสั่ง ง่ายๆ ในการสร้าง public key อยู่ ดูได้ที่โพสนี้
  •  คลิกที่ปุ่ม Generate
  • ขยับเม้าส์ไปมาบริเวลาพื้นที่ว่าง เพื่อทำการ สร้าง key
  •  เมื่อสร้างเรียบร้อยจะได้หน้าต่าง ดังภาพ ในกรอบสีแดงคือ public key ซึ่งเป็นสิ่งที่เราต้องคัดลอกไว้ Ctrl + C เพื่อจะนำไป config ที่ SSH Server อีกที
  • สิ่งที่ต้องทำอีกอย่างคือ บันทึก private key คลิกที่ปุ่ม Save private key โดยไม่ต้องระบุรหัสผ่าน without passphrase กด Yes ได้เลยครับ
  • เลือกพาธสำหรับวาง private key ให้เรียบร้อย แล้วคลิกปุ่ม Save
  • ที่ฝั่ง SSH Server remote เข้าไปแบบปกติก่อน ให้เราไปที่ .ssh ของ user ที่เราต้องการ authen แบบ public key โดยพาธจะอยู่ประมาณนี้ /home/user/.ssh
  • ซึ่งใน folder จะมีประมาณนี้ เห็น authorized_keys มั้ยเปิดมันด้วย text editor สักตัวขึ้นมา (ถ้าไม่มีให้เราสร้างเองก็ได้) โดยกำหนด permission อย่างน้อย 700
  • จำได้มั้ยที่เรา Ctrl + C ไว้ ณ ขั้นตอนการสร้าง public key ด้วย puttygen.exe ให้เราวาง Ctrl + V ค่านั้นที่ authorized_keys บรรทัดแรกดังภาพนี้ก็ได้ (นอกกรอบสีแดงคือ public key อันอื่นๆ ซึ่ง ไฟล์นี้ สามารถ บรรจุ public key ได้มากกว่า 1 key หรือ จะวางบรรทัดต่อจาก key เดิมที่มีอยู่แล้วก็ได้เช่นกัน)
  • กลับมาที่ฝั่ง SSH Client ในที่นี้จะทำการ เพิ่ม public key ให้ session นี้ โดยคลิกที่ปุ่ม Advanced...
  • ไปที่ SSH => Authentication => Private key file: เราคลิกปุ่ม ... เลือกไฟล์ private key ที่เราสร้างไว้ในขั้นตอนข้างต้น จากนั้นคลิก OK
  • ในที่นี้เราจะทำการ save session นี้ที่ใช้ private key authen ด้วยการคลิกที่ Save ใส่ site name ตามต้องการ
  • ตามด้วยคลิกที่ OK
  • เราจะได้ shortcut ในการ remote ของ session ที่ใช้ private key ในการ login เข้า SSH Server
Related

20 ข้อที่เยาวชน 3-19 ปี ควรได้เรียนรู้ เรื่องเงิน

http://blog.eduzones.com/lifestyle/124984

เรื่อง ของเงินๆทองๆ การเก็บการออม การประหยัดนั้น จริงๆแล้วเป็นสิ่งที่เรียนรู้ได้ตั้งแต่เด็กๆนะคะ และเป็นสิ่งสำคัญที่เด็กๆควรฝึกฝน เพราะการรู้จักออม รู้จักเก็บ รู้จักใช้ จะเป็นพื้นฐานนิสัยการบริหารเงินที่ดีเมื่อเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ในอนาคต

Eduzones นำข้อมูลสิ่งที่เยาวชนควรได้เรียนรู้จักการใช้เงินอย่างรู้คุณค่าตามช่วง อายุของเขา คุณพ่อคุณแม่ก็สามารถที่จะใช้ตารางนี้เป็นไกด์ ในการสอนลูกๆได้ค่ะ


ช่วงอายุ 3-5 ขวบ
ใน ช่วงนี้สามารถสอนให้เขารู้จักเงินและราคาสิ่งของต่างๆ ได้ เช่น ตอนไปซื้อของที่ซูเปอร์มาร์เก็ต อาจให้เขาช่วยหยิบและดูราคาสินค้าต่างๆ ให้
1. ให้เขารู้ว่า คนเราต้องการเงินเพื่อซื้อสิ่งของ
2. ให้เขารู้ว่า คนเราจะมีเงินต้องทำงานเพื่อแลกมา
3. ให้เขารู้ว่า บางครั้งเราต้องรู้จักรอก่อนที่จะซื้ออะไรที่เราต้องการ
4. ให้เขารู้ว่า มันมีความแตกต่างระหว่างสิ่งที่ต้องการกับสิ่งที่จำเป็น

ช่วงอายุ 6-10 ขวบ
เป็น วัยที่เริ่มรู้จักเหตุและผล อาจให้เงินค่าใช้จ่ายเป็นรายสัปดาห์ และอธิบายให้เขาฟังถึงการใช้จ่ายในงบประมาณที่จำกัด หรืออาจสร้างแรงจูงใจในการออมเงินให้ลูก เช่น ถ้าเหลือเงินมาหยอดกระปุก 20 บาท คุณก็จะหยอดเพิ่มให้อีก 20 บาท เป็น 40 บาท
5. ให้เขารู้ว่า บางครั้งเขาต้องเลือกว่าจะใช้เงินไปกับอะไร
6. ให้เขารู้ว่า การซื้อที่ดีควรเปรียบเทียบราคาก่อนที่จะซื้อ
7. ให้เขารู้ว่า การสั่งซื้อทางออนไลน์อาจมีอันตรายและอาจแพงเกินจริง
8. ให้เขารู้ว่า การเอาเงินไปฝากธนาคารมันปลอดภัยและให้ดอกเบี้ย

ช่วงอายุ 11-13 ปี
เป็น วัยที่เริ่มเข้าสู่วัยรุ่น ช่วงนี้ลูกมักร้องขอสิ่งของตามเพื่อน ซึ่งคุณอาจให้เขาเรียนรู้ที่จะเก็บเงินเพื่อซื้อของนั้นเอง หรืออาจช่วยออกเงินให้ครึ่งหนึ่ง เพื่อให้เขามีความรับผิดชอบและมีความภูมิใจในตนเอง
9. ให้เขารู้ว่า ทุกครั้งที่ได้เงินมาต้องแบ่งบางส่วนมาเพื่อออม
10. ให้เขารู้ว่า การใส่รหัสบัตรเครดิตและข้อมูลส่วนตัวออนไลน์อาจถูกคนอื่นขโมยข้อมูลได้
11. ให้เขารู้ว่า การออมก่อนรวยกว่า จากพลังดอกเบี้ยทบต้น
12. ให้เขารู้ว่า การใช้บัตรเครดิตก็คือการกู้เงินมาใช้

ช่วงอายุ 14-18 ปี
ช่วงวัยรุ่นตอนต้น เตรียมพร้อมที่จะเข้าสู่การเรียนต่อมหาวิทยาลัย
13. ให้เขารู้ว่า แต่ละมหาวิทยาลัย ค่าใช้จ่าย ค่าเทอม ไม่เท่ากัน
14. ให้เขารู้ว่าอย่าใช้บัตรเครดิตซื้อของที่ไม่มีปัญญาหาเงินมาจ่ายทีหลัง
15. ให้เขารู้ว่า มันมีภาษีนะ!!
16. ให้เขารู้ว่า นอกจากธนาคาร ยังมีกองทุนรวม

อายุ 19 ปีขึ้นไป
วัยที่เริ่มเข้าสู่การเรียนในระดับมหาวิทยาลัย
17. ให้เขารู้ว่า จงใช้บัตรเครดิตไม่ให้เกินเงินที่หาได้ในแต่ละเดือน
18. ให้เขารู้ว่า การทำประกันเป็นเรื่องจำเป็น
19. ให้เขารู้ว่า ควรมีเงินออมฉุกเฉิน เพื่อให้ใช้จ่ายอย่างน้อย 3 เดือนของรายจ่ายรายเดือน
20. ให้เขารู้ว่า เมื่อคิดจะลงทุน ควรคิดถึงความเสี่ยงและค่าใช้จ่ายที่จะตามมา

by Riya www.eduzones.com
info : moneyasyougrow.org, เจียรนัย อุตะมะ/ชีวรัตน์ กิจนภาธนพงศ์ post today, tsi-thailand.org
photo : zcool.com.cn, veectors.com

Mirror website อย่างง่ายด้วย RSync

อธิบายหลักการทำงานเบื้องต้นจ้า (คร่าวจากอ้างอิงและความเข้าใจของผู้เขียน)
rsync คือ โปรแกรมไว้สำหรับ remote file backup and synchronization ตัวหนึ่งซึ่งนิยมใช้กันแพร่หลายบนระบบปฏิบัติการ UNIX, LINUX ลักษณะการทำงานคล้าย cp , scp แต่ที่เจ๋งกว่าคือ สนับสนุนการ backup แบบ incremental และแบบ full ตัวอย่างเช่น เราต้องการทำ duplicate file server1 ไปที่ server2 เมื่อมีการลบหรือเพิ่มไฟล์บน server1 เมื่อใช้ rsync ตัวโปรแกรมจำ จะการลบหรือเพิ่มไฟล์นั้นๆ บน server2 ไปด้วย หรือในกรณีที่ไฟล์เดิมบน server1 มีการแก้ไข เมื่อใช้ rsync ในการ backup มันก็จะแก้ไขไฟล์นั้นบน server2 ให้ด้วย ต่างกับ cp และ scp ที่เราต้องตรวจสอบเองว่า มีอะไรที่ต่างกันมั่ง หรือไฟล์ใหนมีการแก้ไขมั่งบน server1 และ server2 (ซึ่งมันก็เขียนสคริปตรวจสอบได้อยู่เหมือนกันแต่จะยุ่งยากไปไย)
ตัวอย่างที่ 1 master และ mirror = linux  debian 6 (squeeze) เหมือนกัน
master => linux = master.server.com, path = /var/www/
mirror => linux = mirror.server.com, path = /var/www/
  • ก่อนอื่นเลยเราต้องตรวจสอบก่อนว่ามี rsync บนเครื่อง master และ mirror หรือยังด้วยคำสั่ง (Linux ใหม่ๆ ส่วนมากจะติดตั้งแล้วเรียบร้อย)
$ dpkg --get-selections | grep rsync
  • ถ้า package ถูกติดตั้งแล้วจะแสดง output ประมาณเนี๋ย ซึ่ง Debain 6 เรามันมีมาตั้งแต่ตอนติดตั้งระบบแล้วหว่า
--->>> rsync.................install
  • ในกรณีเครื่อง master.server.com หรือ mirror.server.com ยังไม่มี package ให้เราติดตั้งและปรับแต่ง rsync ดังนี้
# aptitude install rsync หรือ # apt-get install rsync
# vi /etc/default/rsync

RSYNC_ENABLE=true
การใช้งานคำสั่งฝั่ง master.server.com (linux)
# rsync -avz -e ssh /var/www/ usermirror@mirror.server.com:/var/www/
  • a คือ คัดลอกไฟล์ที่มีการเปลี่ยนแปลง หรือ ไฟล์ที่มีการเพิ่มเข้ามาบน master เท่านั้น
  • v คือ increase verbosity แสดงรายละเอียดการเพิ่ม
  • z คือ compress file data during transfer
  • e คือ specify the remote shell to use

กรณีนี้รันคำสั่งที่ฝั่ง mirror.server.com (linux)
# rsync -avz -e ssh usermaster@master.server.com:/var/www/ /var/www/
-------------------------------------------------------------------------------------------------------

ตัวอย่างที่ 2 master เป็น linux  debian 6 (squeeze) และ mirror เป็น server 2003 r2
master = linux = master.server.com, Path = /home/user/public_html/
mirror = windows = mirror.server.com, Patch = D:\www\
  • ตรวจสอบ rsync ฝั่ง master ให้เรียบร้อยก่อนว่าติดตั้งหรือยัง ดังตัวอย่างที่ 1
การใช้งานคำสั่งฝั่ง master.server.com (linux)
  • ประยุกค์ตามตัวอย่างที่ 1 ก็จะได้ประมาณนี้
rsync -avz --delete --progress /home/user/public_html/ usermirror@mirror.server.com:/cygdrive/d/www/
กรณีนี้รันคำสั่งที่ฝั่ง mirror.server.com (windows)
  • windows มันไม่มี rsync client มาให้นิ เราจึงต้องติดตั้ง cwRsync client free edition (ไม่แน่ใจว่ามันฟรีมานานหรือยัง แต่ ณ ขณะเขียนมันยังมีฟรี และ แบบเสียเงินให้เลือกอยู่) เพื่อจะใช้คำสั่ง rsync ได้บน windows 
  • ติดตั้งเสร็จแล้วอย่าลืมตั้ง system path rsync ให้ระบบเห็นให้เรียบร้อย
  • คำสั่งในการใช้งานประมาณนี้
rsync -avz --delete --progress usermaster@master.server.com:/home/user/public_html/ /cygdrive/d/www/
  • --delete คือ ให้ลบไฟล์ฝั่ง mirror ในกรณี มันไม่มีบน master ประมาณข้อมูลเหมือนกันแป๊ะ
  • --progress คือ แสดงการประมวลผลบน console ให้เราเห็นด้วย
  • rsync จะคัดลอกไฟล์ทั้งหมดใน master ณ พาธ /home/user/public_html/ ที่ user มีสิทธิในการอ่านทั้งหมดมาที่ mirror ณ พาธ d:\www\ 
-------------------------------------------------------------------------------------------------------
กรณีตั้ง rsync by pass password authen ด้วย public key authen อ้างอิงจากตัวอย่างที่ 2
rsync -avz --delete --progress -e "ssh -oStrictHostKeyChecking=no -oUserKnownHostsFile=/dev/null -i d:/private_key/id_dsa" user@master.server.com:/home/user/public_html/ /cygdrive/d/www/

  • คำสั่งตัวอย่างนี้ อ้างอิงโดยที่ public key และ private key ถูกสร้าง บน linux debian 6
  • แต่เราสามารถสร้าง public และ private key บน windows ได้เหมือนกัน เช่น สร้างด้วย puttygen.exe เป็นต้น

Ref
  • https://www.itefix.no/i2/cwrsync
  • http://www.thaitux.info/book/export/html/94
  • http://spalinux.com/2012/12/copy-files-between-host-using-rsync

Sunday, March 23, 2014

แก้ปัญหากุญแจ Immobilizer จมน้ำ


  • http://www.newrangerclub.com/thread-52277-1-1.html
  • กรณีลิ้งอ้างอิง โดนแช่นานด้วย - -' เค้านำมันขึ้นมาจากเครื่องซักผ้าเลย 

ลิ้้งที่มาแนะนำว่า

  • เช็ดให้แ้หง แล้วใช้ไดร์เป่าผมเป่า จากนั้นทิ้งไว้ในถังข้าวสาร สัก 1 คืน และตามด้วยแกะออกมา เป่าอีกรอบ ตามด้วย เช็ดด้วยทินเนอร์ อีกที
  • ผมแนะนำให้หมกข้าวสาร 1 คืน หรือ ถ้าเป็นไปได้ถอดเอาแพงวงจรออกมา แล้วเอาคัตเทิ่ลบัตจุ่มทินเนอร์เช็ดแพงวงจรหรือไม่ก็เอาแปรงสีฟันจุ่มทินเนอร์ปัดครับ ทินเนอร์ไม่ทำปฏิกริยากับ PCB ผมใช้ล้างวงจรโทรศัพท์มือถือครับเวลาเจอเครื่องตกน้ำมา แล้วเอาไดร์เป่าไร่ความชื้นพร้อมด้วย ฉีดสเปย์ฟิลลิปกระป๋องฟ้า ไล่ความชื้นอีกทีครับ



Friday, March 21, 2014

Set UPnP / DLNA Media Server on Android via BubbleUPnP

  • ประเด็นมีอยู่ว่าที่บ้านมี Smart TV ของยี่ห้อ Panasonic รุ่นประมาณ Pansonic Smart Viera เห็นมีทำได้หลายอย่างมาเลย ไม่ว่าจะเป็น อ่านไฟล์ video หรือ picture ผ่าน USB ได้ เป็น shoutcast client ได้ และอื่นๆ อีกเล็กน้อย
  • แต่ที่ผู้เขียนสนในคือ มันสามารถเป็น UPnP/DLNA Media Client ได้หว่า 
  • ตอนแรกไม่รู้หรอกว่า มันคือไร (ใช้มาเป็น ปีแหละ ไม่ได้สนใจ สงสัยวันนี้ว่างจัด) แต่พอหาข้อมูลเบื้องต้นด้วย Android บนมือเราพบว่า อืมน่าสนใจดีแฮะ 
  • เราเข้าใจว่า เป็นโพรโตคอล สำหรับ streaming จากตัว server มาที่ client 
  • มันเหมาะกับทำใช้ที่บ้านมากๆ
  • หลักการทำงานคร่าวๆ คือ มี server สำหรับ ส่ง stream video หรือ picture และมี client สำหรับ รับ stream จาก server ที่เราทำไว้ 
  • ซึ่ง server ที่ว่ามาอาจเป็น pc หรือ notebook หรือ mobile device สักอย่างที่มีความสามารถที่จะเป็น UPnP / DLNA Media Server ได้
  • ส่วน client ก็เช่น mobile device , pc หรือ notebook หรือที่เกี่ยวกับโพสนี้คือ Smart TV
  • สรุปคือเป็นโพรโทคอลที่พบได้หลากหลายอุปกรณ์ ทำให้การเข้าถึงของคนทั่วๆ ไปมันง่ายมาก
  • เช่น เรามี smart phone และ smart tv แค่เนี๋ย เราก็ใช้งานระบบแบบนี้ได้แหละ
ตัวอย่าง
  • UPnP / DLNA Media Server ในที่นี้จะเป็น Android ที่ลงโปรแกรมชื่อว่า ่BubbleUPnP (แอพนี้มันใช้งานง่ายดีเลยจะเขียนโดยอ้างอิงตัวนี้)
  • UPnP / DLNA Media Client ในที่นี้คือ Pansonic Smart Viera TV
ฝั่ง Server : Android  
  • เปิด WIFI และเชื่อมต่อกับ LAN ในบ้านเราให้เรียบร้อย 
  • จากนั้นติดตั้งโปรแกรมชื่อ BubbleUPnP ซึ่่งใน play store เราจะพบแบบ free และ buy เลือก แบบ free ก็พอมั้ง
  • เปิดโปรแกรม BubbleUPnP ขึ้นมามันจะทำตัวเป็น Local Media Server และ Start โปรแกรมให้เราเลย
  • เราตั้งค่าให้ video หรือ picture ใหนถูก share ให้ DLNA Client พบได้ โดยตั้งค่าในโปรแกรมนั่นแหละ แต่ตอนนี้ ยังไม่เคยตั้งค่า (ไม่แน่ใจว่า version free จะทำได้หรือเปล่านะ)
ฝั่ง Client : Smart TV
  • ต่อสาย LAN เข้ากับ TV ก่อนเลย เปิด TV และเปิดฟังก์ชั่น DLNA ขึ้นมาครับ ค้นหา Local Media Server ในระบบ LAN ของเรา ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด TV เราจะเจอ Local Media Server ของเราที่ทำไว้แล้ว 

  • เลือก Media Server ตัวนั้น จาก Client ก็จะ List Media Server ที่พบในระบบ LAN ขึ้นมาแสดงบนหน้าจอเราก็เลือกซะเพราะมีอันเดียวแน่นอนในขณะนี้ 
  • โปรแกรม Bubble UPnP เนี๋ยมันจะแยกประเภทสื่อออกเป็นหลายประเภท เช่น video หรือ picture เป็นต้น ซึ่งเมื่อเลือกเข้าไปใน folder ของแต่ละประเภทแล้ว มันจะ List folder ที่บรรจุไฟล์ประเภทนั้นๆ มาแสดงผล ซึ่งผู้เขียนคิดว่า มันทำให้ผู้ใช้ ใช้งานสะดวกมากๆ
  • ผู้เขียนทดสอบโดยใช้ android โหลดไฟล์ youtube ผู้เขียนเลือก type เป็น mp4  หรือ ถ่าย video ด้วยมือถือเรา ในการทดสอบแสดงผล
  • Smart TV เครื่องนี้สามารถเล่นได้ครับพี่น้อง
  • แต่อยากทำอย่าง อยากจะเปิด Youtube แล้ว Streaming ส่งต่อมาที่ TV เลย ยังหาโปรแกรมที่ว่าไม่เจอ ใครเคยใช้ช่วยแนะนำที
เพิ่มเติม
  • http://mashable.com/2011/02/16/media-streaming-how-to/
  • http://superuser.com/questions/226636/what-is-the-difference-between-dlna-and-upnp

Install OpenSSL for AppServ on Windows OS

อ้างอิง
  • http://goo.gl/4733YQ
  • http://slproweb.com/products/Win32OpenSSL.html
  • http://www.openssl.org/related/binaries.html
ประเด็น
  • เรื่องมีอยู่ว่า จะลอง backup blogger ของเราลงมาที่ wordpress บน localhost
  • โดยรันบน Windows 8 + AppServ
  • ติดตั้ง plugin สำหรับ import blogger เรียบร้อย แต่ มันแจ้งเตือนว่า ต้อง Authen ผ่าน SSL หว่า
Solved

  • จะเห็นว่า เราเลือกที่ Copy OpenSSL DLLs to: The Windows system directory นะ
  • ต่อมาให้เราไปที่ C:\Windows\php.ini เปิดมันขึ้นมาด้วย text editor สักตัว
  • ไปที่บรรทัดประมาณนี้ หรือ Ctrl+F แล้วพิมพ์ ssl เพื่อค้นหา
  • แก้ไขให้เป็นดังภาพ โดยเรา semicolon ข้างหน้า extension=php_openssl.dll ออก จะได้บรรทัดที่แก้แล้วดังภาพ
  • สุดท้าย เปิด services.msc ขึ้นมาแล้ว restart service ชื่อ Apache X.Y ให้เรียบร้อย
  • เพียงเท่านี้เราก็สามารถใช้ plugin สำหรับ import Blogger to Wordpress บน Localhost เราได้แล้วครับพี่น้อง

Google tool for generate sitemap.xml


  • https://code.google.com/p/googlesitemapgenerator/
  • http://www.linuxquestions.org/questions/ubuntu-63/usr-sbin-apache2-is-not-a-supported-apache-binary-or-control-script-827266/
  • http://googlesitemapgenerator.googlecode.com/svn/trunk/doc/gsg-installation.html#gsg_i_lin

./install.sh -g www-data -c /etc/apache2/apache2.conf -t /usr/sbin/apache2ctl

Tuesday, March 18, 2014

โดน 555.in.th เล่นงานซะแล้วเรา

  • ก่อนหน้านี่โดน hao123 เล่นเปลี่ยน startpage Chrome และ Firefox ของเรา แต่ตอนนั้นมันแค่ เล่นมุขเป็น Target ของ shortcut โปรแกรมทั้ง 2 ตัว ให้เรียกไปยัง hao123 หว่า พอแก้ Target แล้วมันก็หาย
  • แต่ 555.in.th มันเล่น ลึกกว่าที่คิดแฮะ
  • ลืมเขียนอย่าง โดน 555 เล่นงานเพราะว่า โหลดและติดตั้ง Free Youtube Downloader หว่า
อาการ
  • หน้า Desktop จะมีไอคอนชื่อ เปิดเว็บ.nvi มันเลวมากเลย เราลบแล้ว พอเปิดเครื่องมาใหม่ มันยังเสนอหน้ามาอีก

  • อีกอาการคือ เปิด Chrome หรือ Firefox (shortcut on desktop) ขึ้นมาเจอ 555.in.th หน้าแรกตลอดเลย
  • ลบ shortcut สร้างมาใหม่ทั้งสองตัว ดู properties มันยังไม่เพิ่ม url แต่พอเรา double click shortcut มันก็เข้า 555.in.th เหมือนเดิม และพอเปิดดู Target มันเพิ่ม url ต่อท้ายชื่อโปรแกรมเราอีกแหละ
  • มันแน่มากเลย ใครทำวะ น่าจะแจ้ง ICT จับมันเลย มันแสบจริงๆ
  • แต่ถ้าเราเข้าไปที่ Program Files แล้วคลิก โปรแกรมที่ไม่ใช่ shortcut มันก็เปิด startpage หน้าปกตินะครับพี่น้อง เฮ่อ เหนื่่อยแน่ๆ ไม่อยากลง OS ใหม่เลยขี้เกียจ
สิ่งที่ลองทำเบื้องต้น
  • เข้าไปตั้งค่า Setting ของทั้ง 2 โปรแกรมว่า มันเปลี่ยนค่า homepage เราหรือไม่ ผลคือ มันไม่ได้เปลี่ยน ค่านี้เราเลย
  • เข้าไปดูใน Uninstall ของ Windows เจอประมาณ 555.in.th ก็พยายามลบออก มันก็หายออกจากหน้านั้นนะ
  • อืม ลองดู properties ของ shortcut อืมมี เหมือน hao123 เลย เราก็ลบ url ที่มันเพิ่มต่อท้ายค่า Target เราทิ้ง 
  • แล้วลอง reboot ดู กลับมาอืม เปิดเว็บ.nvi มันยังหน้ามึนอยู่อีกแฮะ นึกว่าจะไม่เห็นแล้ว - -'
  • เปิด Chrome ผ่าน shortcut บน Desktop หรือ ที่เรา Pin ไว้ มันก็ยังเข้า 555 เหมือนเดิม ซวยแหละ แก้ยาก มากกว่าที่คิดแฮะ
  • ค้นหาทางใน google อีกรอบเค้าบอกว่าใช้ adwcleaner และ freefixer อืม ลองใช้มันก็ยังไม่หายเลย

Solved ปัญหา 1 
  • เปิดเว็บ.nvi บนหน้า Desktop ลบโดยเปิด startup folder ขึ้นมา 
  • ใน Windows 8 ให้เปิด Run แล้วพิมพ์ shell:startup มันจะพบ ตัวปัญหาของ icon นี้แหละ perf-optimise.nvi  
  • ลบมันเลย ปัญหานี้หมดไปครับพี่น้อง
Solved ปัญหา 2
  • เปิด Chrome หรือ Firefox มันจะเข้า 555.in.th ตลอดแก้ไขโดย เปิด Explorer เข้าไปที่ 
  • C:\Users\YourUser\AppData\Roaming
  • เราจะพบ folder ชื่อ webnavi เข้าไปในนั้นจากนั้น ลบไฟล์ที่มีในนั้นออก อันใหนลบได้ลบ อันใหนมันลบไม่ได้ก็ Skip ไปก่อน
  • จากนั้นเปิด Run พิมพ์ regedit จากนั้น Ctrl+F พิมพ์คำค้นเป็น webnavi 
  • ค้นเจอคำนี้ตรงใหนให้จัดการลบได้เลย Find next และ ลบไปเรื่อยๆ จนหมดใน registry ของระบบ เจอคำที่มี webnavi ไม่ว่าจะอยู่ root ทางซ้ายหรือ list รายการทางช่องขวาของ regedit ลบอย่าให้เหลือ
  • จากนั้น reboot 1 รอบ เข้าไปที่ C:\Users\YourUser\AppData\Roaming ที่นี้ลบ folder webnavi ได้เลย น่าจะลบออกได้ปกติ
  • เป็นอันเสร็จพิธี
เพิ่มเติม
  • IE , Opera, Maxtron ลองใช้แล้ว ทำไมมันไม่ขึ้น 555.in.th หว่า (Safari ไม่ได้ติดตั้งบนเครื่องจึงไม่ทราบว่าโดนหรือเปล่า) จำได้ว่า hao123 บน XP ตัว IE ยังโดนเลย มันสื่อว่า Chrome และ Firefox มีคนใช้เยอะหรือยังไงเนี๋ย สงสัยต้องหนีไปใช้ Maxtron แหละ
  • แต่ลืมอย่างคือ ลืม uninstall chrome และ firefox ออก แล้ว ลงใหม่ อันนี้ไม่รู้มันจะหายหรือป่าว หายก็ดีนะ ง่ายดี
อ้างอิง
  • จาก pantip.com ลืม favorite ลิ้งไว้หว่า

syslinux.exe has stopped working

  • พยายามทำ Live USB ด้วย Universal USB installer (โพสนี้ version 1.9.5.2)
  • ก่อนหน้านี้ประมาณ วันเดียว มันยังทำได้อยู่นิ แล้ววันนี้ ไง๋ พยายามทำแล้วมันขึ้นงี้หว่า
Solved
  • เปิด My Computer ขึ้นมา คลิกขวา format drive ที่จะทำ Live USB
  • ตอน format เลือก Type เป็น NTFS
  • จากนั้นตอนสร้าง Live USB ไม่ต้องเลือก format นะ
  • และ Create Live USB ได้เลย ผ่านนะ
สรุป
  • คิดว่านะจะมีปัญหาการใช้งาน option format to FAT32 ของ โปรแกรม Universal นี่แหละ
  • จึงต้อง format เองเสียก่อน แล้วจึงสร้าง Live USB
  • แต่งงอย่าง NTFS หรือ FAT32 ก็สร้าง ใช้ทำ Live USB ได้หมดเลยแฮะ ตอนแรกเข้าใจว่า FAT32 อย่างเดียวนะ
อ้างอิง
  • http://ubuntuforums.org/showthread.php?t=1653968
  • http://askubuntu.com/questions/142728/how-to-fix-syslinux-error-creating-a-bootable-usb-stick-in-windows
  • http://ardamis.com/2011/09/18/universal-usb-installer-syslinux-errors/

Wednesday, March 12, 2014

Download video from youtue and convert to XVid MPEG-4 (AVI)

  • ประเด็นมีอยู่ว่าจะโหลดหนัง และ การ์ตูนเด็กจาก youtube เพื่อเก็บใส่การ์ดไว้ดูในรถ แต่เครื่องเล่นในรถเป็นตัวนี้  จอ 7 นิ้วเกาะกระจกมองหลัง มันลองรับ divx, xvid 
  • เราก็โหลดไฟล์โดย google chrome ซึ่งจะมี extension หรือ plugin ที่มันโหลดให้เรา แต่ไฟล์ที่ได้เป็น mp4 หรือ flv หว่า
  • มันต้องใช้โปรแกรม convert อีกรอบ โดยใช้ Total Video Converter แปลงโดย Type AVI และเลือก XVID AVI 
  • ซึ่งทำไมเราต้องทำหลายขั้นตอนด้วยหว่า
  • ปัญหาคือ อยากได้โปรแกรมโหลด หรือ วิธีโหลด youtube แบบใดก็ได้ ให้ได้ไฟล์ ที่แปลงแบบ XVID MPEG-4 (AVI) ได้ไฟล์ AVI ออกมา

Solved
  • โปรแกรม Free Youtube Downloader ช่วยเราได้
  • วิธีใช้ก็ง่ายๆ คือ เปิดโปรแกมเราขึ้นมาและคัดลอก URL ของ Youtube หน้าที่เราต้องการดาวน์โหลดมาวาง จากนั้นเลือก Output format และ Preferred quality ตามต้องการ
  • ในที่นี้ผู้เขียนเลือกใช้ค่าเริ่มต้นในการดาวน์โหลด
เพิ่มเติม
  • โปรแกรมนี้ต้องใช้ Framework 4.0 นะจ้ะ ฉะนั้น XP หรือเครื่องที่ไม่มีต้องติดตั้ง .Net framework 4.0 ก่อนเลยจึงจะใช้งานโปรแกรมนี้ได้
  • ความสามารถ อีกอยางคือ แปลงไฟล์ที่มีอยู่แล้วได้ด้วย ดีจังแฮะ
  • และสุดท้ายโปรแกรมนี้ แปลงไฟล์ได้คราวละ 1 ไฟล์ แต่เราเปิดโปรแกรมนี้ได้แบบ multi instance ทำให้ทำหลายๆ ไฟล์ไปเรื่อยๆ ได้โดยไม่ต้องรอให้ 1 งานเสร็จก่อน
  • แต่แนะนำให้ใช้แบบ download & convert จาก youtube จะเหมาะที่สุด เพราะลอง convert ไฟล์ที่มีอยู่ในเครื่องมันจะช้ากว่า เมื่อเทียบกับโปรแกรม convert ไฟล์ตัวอื่นนะ
  • ติดตั้งโปรแกรมนี้ ระวัง adware พวก hao123 หรือ 555.in.th ด้วยนะครับ
Refer
  • http://thailandload.blogspot.com/2011/01/free-youtube-downloader-31.html

Thursday, March 6, 2014

แปลงไฟล์ video ให้เล่นได้กับ จอมอนิเตอร์ 7 นิ้ว แบบเกาะกระจกมองหลัง

  • ซื้อมาใช้นานแหละ ลืมแล้วว่า มันต้องแปลงไฟล์ที่เราโหลดมาจาก Youtube ต้องแปลงเป็นอะไรอย่างไร
  • เขียนโพสบันทึกไว้ซะหน่อย


Solved
  • โหลดจาก Youtube มาโดยเลือก type เป็น mp4
  • เราจะแปลงเป็น avi นะครับพี่น้อง โดยใช้การเข้า encode แบบ divx 
  • แสดงว่าเราต้องติดตั้ง divx ก่อน เพื่อจะใช้เป็นตัว encode ตอนแปลง
  • ส่วนการแปลงนั้นเราจะใช้ Total Video Converter เป็นตัวช่วย
  • แนะนำใช้ codec แบบ XVID AVI หรือ DIVX 50 AVI (แต่ XVID AVI ชัดกว่าภาพไม่แตกด้วยผู้เขียนใช้ตัวนี้ในการแปลงไฟล์ ให้เล่นบน player ที่ลองรับ DivX หรือ XVid
  • สุดท้าย อย่าลืม type drive ของ SD Card หรือ Flash Drive ต้องเป็น FAT32 นะครับพี่น้อง

น้ำยาล้าง ยางมะตอย ติดรถ

http://www.allnewrangerclub.com/board/viewtopic.php?f=9&t=4116


  • ปกติใช้ น้ำมันสน น้ำมันก๊าด sonix ฉีด เจอในเว็บ
  • มันละลายง่ายเหลือเกิน ราคา ไม่แรงมาก น่าลอง

Wednesday, March 5, 2014

How to Forward Ports to a Virtual Machine and Use It as a Server

  • ประเด็นมีอยู่ว่า มี server อยู่ 1 ตัว เป็น debian 6 อืม
  • อยากใช้ sql server 2005 มันลงบน debian ไม่ได้หว่า สอบถามเจ้าหน้าที่ ที่ทำงานเกี่ยวกับเรื่องนี้โดยตรง เค้าบอกว่า ยังไงมันก็ลงไม่ได้เนื่องจาก มันทำมาสำหรับ windows platform
  • ทำไงล่ะทีนี้ อืมงั้นก็ลงมัน บน Windows แล้วรัน Windows แบบ VM แล้วกันโดยใช้ VBox เป็นตัวช่วย และ forward port น่าจะได้ เพราะ นานแหละ เคยเห็นว่ามันทำได้ แต่เสียเวลา ตั้งค่านานหน่อย
  • คำเตือน คิดว่าเครื่อง server เรา cpu แรงพอประมาณ ram เยอะหน่อย อย่างน้อง 8 GB น่าจะรันไหวนะ VM เนี๋ย
Solved
  • สเตปแรกคือ เราจะต้องติดตั้ง Virtualbox สำหรับ Linux เราก่อนเลือกตัวติดตั้งของ vbox ให้ตรงรุ่นกับ OS เรา 32 bit หรือ 64 bit ก็เลือกให้มันเข้ากันนะครับ
  • จะโหลดด้วยวิธีใดก็แล้วแต่สะดวก CLI หรือ GUI แล้วแต่ท่าน
  • เพิ่มเติม การติดตั้งและรัน VBox บน Linux ถ้าเรา remote ด้วย VNC ได้ จะทำการติดตั้งและรันได้ง่ายมากเลย
  • แต่ถ้าติดปัญหาเรื่อง security ก็ไปใช้ Remote VNC via SSH Tunelling ก็ทำได้เช่นกัน
  • สเตปต่อมาคือ ติดตั้ง Guest OS ให้เรียบร้อย ให้แรมเยอะๆ หน่อยน่าจะเข้าท่า
  • จากนั้น ตั้งค่าของ Guest OS ซะหน่อยโดยคลิกขวาที่ Guest OS ไปที่ Settings
  • เลือกไปที่ Network โดยที่ Attached to: ให้เลือกเป็น NAT 
  • และขยาย Advanced ออกจะพบปุ่ม Port Forwarding คลิกมันซะ
  • ตัวอย่าง
  • Name => SQL Server 
  • Protocol => TCP 
  • Host Port => 1433
  • Guest Port => 1433
  • Host IP และ Guest IP => ไม่ใส่ก็ได้
  • คลิกที่ OK ซะ เป็นอันเสร็จพิธี
  • จากนั้นเราก็รัน Guest OS เรา และ Remote SQL Server เข้ามาโดยใส่ domain name หรือ ip ได้เลย
  • สุดท้าย ถ้าทำแล้ว Remote ไม่ได้ โปรดตรวจสอบ Firewall บน เครื่อง Host และ Guest ทั้งสองเครื่องเลย
  • หรือ ถ้ามี anti malware ก็ตรวจสอบ firewall ของตัวนี้ด้วยเผื่อมี
  • เพียงเท่านี้ Linux Server ก็จะรัน SQL Server ได้แล้ว และมันยังรัน ASP , ASP.NET ได้อีกด้วยนะ
เพิ่มเติม
  • การทำ forward port ด้วย vbox เห็นในอ้างอิงที่ stackoverflow เค้าบอกว่า
  • a linux/unix OS won't let a process listen on ports < 1024 unless they're run as root. You could run VirtualBox as root
  • เครื่องเราไม่เข้าข่ายหว่า ถึง Host เราจะเป็น Debian แต่เราจะใช้ 1433 มัน ไม่เข้าเงื่อนไข < 1024 
  • ลอง forward จาก 81 ไป 1433 ทั้งที่รัน vbox แบบ root กับไม่ใช่ root มันก็ remote ไม่ได้เลยหว่า อืมงั้นแนะนำ ใช้ service ใหน ควรใช้หมายเลขพอร์ต ให้ตรงกันระหว่าง Host และ Guest แต่ใน อ้างอิง เค้า ใช้หมายเลขพอร์ตต่างกันได้ แต่หมายเลข ใกล้ well know port มากอยู่นะ
อ้างอิง
  • http://www.howtogeek.com/122641/how-to-forward-ports-to-a-virtual-machine-and-use-it-as-a-server/
  • https://blogs.oracle.com/johngraves/entry/virtualbox_port_forward
  • http://stackoverflow.com/questions/11388657/port-forwarding-from-host-port-80-to-virtualbox-port-80-doesnt-work

Scan หา printer server ไม่เจอ เพราะอะไร

  • คือเรื่องมีอยู่ว่า มี printer server อยู่ตัว 1 เป็นของ HP มี LAN port อยู่ก็เลยใช้งานความสามารถนี้
  • ที่ client เป็น Windows 7 ติดตั้ง driver โดยใช้แบบ auto scan ก็เจอ printer ตัวนี้ใน network เรา เกือบทุกเครื่อง
  • แต่บางเครื่องไง๋ auto scan ไม่เจอหว่าทั้งที่เป็น Windows 7 เหมือนกันด้วยนะ ลอง fix ip ก็ scan ไม่เจอเหมือนเดิม
  • เห็นรายงานตอน scan แล้วไม่พบของ HP Printer เค้าบอกว่า ถ้า scan ไม่พบให้เราตรวจสอบ firewall เครื่องเรา ว่าปิดกั้นไว้อยู่หรือไม่ 
  • อืม เปิดดู firewall เครื่องนี้ ปิดอยู่นิ แล้วทำไมหว่า
  • ลอง disable kesperky antivirus ดู แล้วลอง auto scan ดูสิ อ้าวได้ซะงั้น

Solved
  • ในกรณีที่เรา scan printer server ไม่พบ บางเครื่อง
  • สิ่งที่ต้อง ตรวจสอบคือ firewall ของ OS และ firewall ของ anti malware นะครับพี่น้อง

Popular Posts