Sunday, May 29, 2011

PHP XML Extension DOMDocument require by Kunena 1.6.4

  • คือจะติดตั้ง Component Kunena 1.6.4 บน CentOS 5.6 มันติดตั้งไม่ผ่าน
  • มันติดที่เดียวคือ PHP XML DOMDocument require
  • พยายามใช้คำสั่ง yum install php-xml มันดันขึ้นว่า
Error: Missing Dependency: php-common = 5.2.10-1.el5.centos is needed by package php-xml-5.2.10-1.el5.centos.x86_64 (c5-testing)
  • ที่นี้เราก็ลองติดตั้ง php-common ตามที่มันแจ้งผิดพลาดด้วยคำสั่ง
yum install php-common
  • มันก็ติดตั้งไม่ได้ ประมาณว่า
Package matching php-common-5.2.10-1.el5.centos.x86_64 already installed
  • หรือประมาณว่า มี php-common-5.3.xxx ติดตั้งแล้วไม่สามารถใช้ yum install php-common ซึ่งใน repo มันเวอร์ชั่นเก่ากว่า จึงติดตั้งไม่ได้
  • ลองเช็คเวอร์ชั่น php
php -v
  • ผลคือ php5.3 ซะงั้นแสดงว่า มีคนติดตั้ง php5.3 เองต่างหาก เพราะถ้าใช้ yum จะได้แค่ php5.2 แค่นั้น
  • ใช้อีกคำสั่งเพื่อตรวจสอบ package php อื่นๆ
rpm -qa | grep php

php-xmlrpc-5.3.5-1.1.w5
php-5.3.5-1.1.w5
php-pear-1.8.1-2.el5.centos
php-pecl-memcache-2.2.5-2.el5.rf
php-pdo-5.3.5-1.1.w5
php-mcrypt-5.3.5-1.1.w5
php-gd-5.3.5-1.1.w5
php53u-soap-5.3.5-3.ius.el5
...
  • ผลคือ php library อื่นๆ ก็เป็น 5.3 หมดเลย ฉนั้นต้องหา php-xml-5.3 มาลง

Solved
  • ไปเว็บนี้
  • โหลดลงมาแล้วติดตั้งซะ
  • ติดตั้งด้วยคำสั่ง
rpm -ivh php-xml-5.3.5-1.1.w5.x86_64.rpm
  • จากนั้น restart httpd
service httpd restart

สรุปอีกรอบ
  • yum install php-xml มันพยายามจะติตั้ง 5.2 และต้องการ php-common 5.2
  • แต่ในระบบมี php-common 5.3 และ อื่นๆก็ 5.3 เช่นกัน
  • ฉนั้นเราต้องหา repo เพิ่มหรือเพื่อให้ได้ php-xml 5.3 มา หรืออีกวิธีก็ไปโหลด .rpm php-xml 5.3 โดยตรง

อ้างอิง
  • http://wiki.centos.org/HowTos/PHP_5.1_To_5.2
  • http://articles.slicehost.com/2008/2/6/centos-installing-apache-and-php5
  • http://www.doitscared.com/?p=553
  • http://dev.centos.org/centos/5/testing/x86_64/RPMS/
  • http://repo.webtatic.com/yum/centos/5/x86_64/
  • http://www.cyberciti.biz/faq/rhel-centos-fedora-linux-yum-command-howto/
  • http://www.google.co.th/search?sourceid=chrome&ie=UTF-8&q=php-xml-5.3.5-1.1.w5.x86_64

Monday, May 23, 2011

Screen refresh rate มีผลกับ Output ใน Projector ด้วย

  • อาการคือ output จาก projector สู่จอฉาย มันแป่ง ฉายไม่เต็มจอ
  • คล้ายกลับเราเลื่อนตำแหน่งแสดงผลไปทางด้านข้าง ด้านใดด้านหนึ่งมากไป
  • ทำให้ส่วนที่ล้นออกไป มาโผล่แสดงผลอีกด้านหนึ่ง

Solved
  • ปรับค่า Screen refresh rate ไปเป็นค่าอื่นๆ
  • ซึ่งตัวอย่างดังภาพจะเป็น 60
  • ปรับขึ้นไปที่ 75 ก็ยังแป่งๆ
  • พอปรับไปที่ 80 Hertz output ก็โอเคถูกต้องเต็มจอ ปกติดี
  • มั่วปรับที่ััตัวโปรเจคเตอร์ตั้งนาน ไม่ได้สักที ปรับที่คอมฯ นี่เอง

Saturday, May 21, 2011

Undo Card คล้ายโปรแกรม freeze เลย

เรื่อง Permission and Owner ของ NTFS ใน Ubuntu

  • ประเด็นประมาณว่าจะเปลี่ยนสิทธิ์ หรือ เจ้าของไฟล์ใน mount ntfs drive windows
  • จาก root ไปเป็นของ user อื่นไม่ได้เลย
  • เข้า sudo เปลี่ยนหรือ sudo -i เข้า root ก่อนจึงเปลี่ยน แบบใหนก็บ่ได้สักอัน
  • แต่สิทธิ์ที่อยู่่ใน home ของ user อื่นๆ ก็เปลี่ยนได้ปกตินะ
  • อ้างอิง Debian 6

Friday, May 20, 2011

บูตเข้าระบบไม่ได้ ค้างอยู่ที่หน้า BIOS

  • อาการตามชื่อโพสเลย คือบูตเข้าระบบแล้วค้างที่หน้า BIOS ตลอดเลย

Solved
  • ในที่นี้แก้ปัญหาโดยเปลี่ยน Keyboard ดู (ของเดิมเป็น PS/2 ของใหม่เป็น USB)

เพิ่มเติม
  • ตามอ้างอิง เค้าแนะนำให้ปัดฝุ่น และขัดแรมซะหน่อย
  • หรืออีกอย่าง keyboard พังทำให้บูตแล้วค้างที่หน้า BIOS

อ้างอิง

Thursday, May 19, 2011

Google Talk ค้างเพราะ Music track status

  • อาการคือ เปิด Winamp ฟังเพลงแล้วปรับ GTalk ให้แสดงสถานะเป็น
  • Show current music trak
  • แล้ว Google Talk ค้างซะงั้น
  • เปิดยังไงก็ค้าง
พอปิด Winamp แล้วจึงเปิด Gtalk มันถึงไม่ค้าง

Tuesday, May 17, 2011

Fix login screen resolution in Ubuntu 11.04

  • ปัญหาคือ เปลี่ยน Resolution ของ Desktop เรา
  • ทุกอย่างโอเค มันเปลี่ยนได้ปกติไม่มีปัญหา
  • แต่พอ logout ออกไปหน้าจอ login screen ผลคือ resolution มันไม่เท่ากันกับเมื่อเข้าสู่ระบบ
  • ตัวอย่างคือเมื่อเรา login เข้าระบบ มันจะใช้ความละเอียด 1024 x 768
  • แต่พอ logout ไปหน้า login มันจะ ได้ความละเอียดอีก ค่าซึ่ง มันละเอียดกว่า ค่าที่ตั้งไว้หว่า

Solved 1
  • Activated ATI driver แค่นี้ปัญหาก็แก้ได้แล้ว (แต่ไม่แนะนำ เพราะมันทำให้ระบบอื่ดต้องแก้ config เยอะจึงจะหาย)

Solved 2
  • ใช้ Open source ATI driver นั่นแหละ แต่สร้าง Xorg.conf เอง แค่นั้น
sudo Xorg -configure

sudo mv ./xorg.conf.new /etc/X11/xorg.conf
  • แก้ไขไฟล์ /etc/X11./xorg.conf สักหน่อย
Section "Screen"

[...]

SubSection "Display"
Depth 24
Modes "1024x768" "1280x960" "640x480" "800x600"
EndSubSection

EndSection

Related

Disable auto hide launcher in Ubuntu 11.04

  • ติดตั้งตัวจัดการ compiz ซะก่อน
sudo apt-get install compizconfig-settings-manager
  • เปิดโปรแกรม compiz ขึ้นมา
  • ไปที่เมนู Ubuntu Unity Plugin
  • ที่ tab Behaviour ตรง Hide Launcher เลือกเป็น Never

Related

Resize Unity Launcher Icons in Ubuntu 11.04

  • ติดตั้งตัวจัดการ compiz ซะก่อน
sudo apt-get install compizconfig-settings-manager
  • กด start พิมพ์ compiz เพื่อค้นหาโปรแกรม (ใช้ Unity)
  • ไปที่เมนู Ubuntu Unity Plugin
  • เปิดโปรแกรมไปที่ tab Experimental ตรงรายการ Launcher icon size ปรับได้ตามสบาย

สร้างไฟล์ Xorg.conf ด้วยคำสั่ง Xorg

  • ต้นฉบับ
ปิดงานทั้งหมด logout ออก

กด ctrl+alt+F1

login เข้า user เราปกติ

sudo /etc/init.d/gdm stop

sudo Xorg -configure # เป็นการให้ xorg generate ค่าใหม่ และมันจะบอกว่าสร้างไฟล์อยู่ที่ path ไหน

sudo mv ที่อยู่ของไฟล์/xorg.conf.new /etc/X11/xorg.conf

startx #start gdm
  • อันนี้ทดสอบเอง
logout ออกจากระบบ

และกด ctrl + alt + F1

กรอก user, pass เข้าสู่ระบบ และพิมพ์คำสั่ง

sudo Xorg -configure

sudo mv ./xorg.conf.new /etc/X11/xorg.conf

จากนั้น reboot ระบบเป็นอันเรียบร้อย
Refer

Use the Windows Key to open the Start Menu in Ubuntu

1. Open the the terminal and type:

gconftool-2 --set /apps/metacity/global_keybindings/panel_main_menu --type string "Super_L"

2. Now you can use Win key to open the Ubuntu menu but you have to press “Esc” to close the menu.

เพิ่่ิมเติม
  • รู้สึกว่าใน Ubuntu 11.04 (Unity) เราไม่ต้องคอนฟิกอะไรเลย key Start ก็ทำงาน หรือไม่ก็ Start + D (Desktop) มันก็ทำหน้าที่ของมันเหมือน windows เลยแฮะ

Refer

Install Caffeine in Ubuntu 11.04

sudo add-apt-repository ppa:caffeine-developers/ppa

sudo apt-get update && sudo apt-get install caffeine

Refer

Insert new Icon in Launcher Unity Ubuntu 11.04

  • พยายามจะเพิ่ม Icon ใหม่ให้ Launcher ของ Unity

Solved

  • ขั้นแรกให้เราสร้าง Create Launcher... ที่ Desktop
  • จากนั้นลาก Icon นั้นไปวางที่ Launcher Unity เป็นอันเรียบร้อย
  • หรืออีกวิธีคือ ค้นหาใน Search ของ Unity จากนั้นก็ลาก Output ที่ต้องการมาใส่ที่ Launcher เลย

เพิ่มเติม
  • ถ้าเราทำการลบ Icon บน Desktop ที่เราสร้างขึ้น Icon ใน Launcher ก็จะหายไปเช่นกัน
  • แก้ปัญหาโดยให้เราสร้าง dir เพื่อเก็บ Icon launcher ไว้สักที่

อ้างอิง

Monday, May 16, 2011

คำสั่ง ln เพื่อสร้าง Link หรือ shortcut

  • ตัวอย่างจะสร้าง shortcut ชื่อ A ให้ link ไป folder B
ln -s /path/B /path/A

Refer

Enable and Disable Ubuntu Root Password


If you want to enable root account (which is not recommended) enter the following command.
$sudo passwd root
This will prompt for a new root password and once you confirm it, you can start using the root account to login. 
If you want to disable root account in ubuntu you need to lock the root account by using the following command
$sudo passwd -l root
If you want to work on a root console you’d better use the following command
$sudo -i 

Refer

How To Configure Remote Access To Your Ubuntu Desktop

vncviewer falko-desktop:0 
or 
vncviewer 192.168.0.217:0
  • http://www.howtoforge.com/configure-remote-access-to-your-ubuntu-desktop
  • http://www.ubuntugeek.com/share-your-ubuntu-desktop-using-remote-desktop.html

Saturday, May 14, 2011

Admin group in Debian 6

  • คือตอนติดตั้ง Debian 6 มันมีให้ตั้งค่า password ของ root ด้วยแหละ
  • ซึ่งเราใช้ Ubuntu มันไม่มี เลยอยากจะใช้ user อื่นทำหน้าที่แทน root
  • การตั้งค่ากลุ่มผู้ใช้ให้ user นั้นไปอยู๋ในกลุ่มที่มีสิทธิ์เหมือน root 
  • ซึ่ง Ubuntu นั้นเราต้องไปแก้ที่ไฟล์ /etc/group และ Debian มันคงไม่ต่างกัน
  • แต่ทำไมใน group ไม่มี admin หว่า มีแต่ adm ซะงั้น 
  • งั้นก็ตั้งให้ user เราไปอยู่ที่ adm เลยก็แล้วกัน

Solved
  • vi /etc/group
  • sudo:x:27:myuser
  • adm:x:4:myuser

Related


Refer
  • http://ubuntuforums.org/showthread.php?t=639171
  • http://knol.google.com/k/hesham-elsaghir/user-is-not-in-the-sudoers-file-how-to/3noo92ojj7hi0/8#

Thursday, May 12, 2011

ย้าย domain name มีปัญหากับ virtual host Debian 6

  • คือขอเปลี่ยน domain name นี้ให้ไปชี้ที่ ip ใหม่
  • ทุกอย่างเรียบร้อยดี ลอง ping ดู domain name มันก็ชี้ที่ ip ใหม่แหละ
  • แต่ทำไมมันยังไปเรียกเว็บที่ server ตัวเก่าอยู่เลยหว่า
  • ลองเช็ค site-available และ site-enabled  ทุกอย่างก็ถูกต้องหมดนะ
  • ลอง /etc/init.d/apache2 reload ตั้งหลายรอบ ก็ไม่รอด
  • สุดท้ายลอง a2dissite และ a2ensite ทุก site ของเรา ตามด้วย /etc/init.d/apache2 restart มันเลย
  • ปรากฏว่า domain name โอเคแหละ มันไปชี้และเลือกใช้เว็บตัวใหม่บน server ใหม่แหละ


สรุป
  • ไม่ทราบปัญหาที่แท้จริง
  • แก้ปัญหาคร่าวๆ คือ ลอง a2dissite และ a2ensite อันที่มีปัญหา และตามด้วย /etc/init.d/apache2 restart มันเลย ไม่ต้องใช้ reload มันหรอก

Tuesday, May 10, 2011

MySQL create user

Pattern
CREATE USER user [IDENTIFIED BY [PASSWORD] 'password']
Example 1 สร้างผู้ใช้และกำหนดสิทธิ์คนละคำสั่ง
CREATE USER 'user1'@'localhost' IDENTIFIED BY 'pass1';
#เพิ่มสิทธิ์ให้ user1 ทำได้แค่ select ... delete
GRANT SELECT,INSERT,UPDATE,DELETE ON mydb.mytable TO 'user1'@'localhost'; 
#เพิ่มสิทธิ์ให้ user1 ทำได้ทุกอย่าง
GRANT ALL ON *.* TO 'user1'@'localhost';

Example 2 สร้างผู้ใช้และกำหนดสิทธิ์คำสั่งเดียว
GRANT ALL ON *.* TO 'user2'@'localhost' IDENTIFIED BY 'pass1';
grant all on database_name.table_name to username@localhost identified by 'yourpassword';
grant all on database_name.table_name to username@% identified by 'yourpassword'; 

  • ไม่ต้องใส่ double qoute หรือ single qoute ก็ได้เช่นกัน 


Example 3 เพิ่มลง mysql db โดยตรง
INSERT INTO user (Host,User,Password)
   VALUES('localhost','user3',PASSWORD('pass3'));

Example 4 เพิ่มลง mysql db โดยตรงและกำหนดสิทธิ์
INSERT INTO user (Host,User,Password,Select_priv,Insert_priv)
   VALUES('localhost','user4',PASSWORD('pass3'),'Y','Y');
Example 5 like root
GRANT ALL PRIVILEGES ON *.* TO 'tolkien'@'%';
GRANT ALL PRIVILEGES ON *.* TO 'user_name'@'localhost' WITH GRANT OPTION;

Refer

Tuesday, May 3, 2011

ปัญหานิดหน่อยเรื่อง Mount partition NTFS ใน Debian 6

  • คือแก้ไขไฟล์ /etc/fstab ตามบทความเรื่อง auto mount แล้ว
  • http://juuier.blogspot.com/2010/05/auto-mount-ntfs-on-ubuntu-1004.html
  • /dev/sda5 /media/DATA ntfs defaults 0 0
  • แต่ reboot ระบบใหม่ Debian 6 เรามันก็ยังไม่ mount sda5 ให้เราเลย


Solved

  • พอลอง mkdir /media/DATA และสั่ง mount -a มันก็ใช้งาน /media/DATA ได้นะ
  • ลอง reboot ระบบ มันก็ mount ให้เราซะงั้น
  • จึงเดาได้ว่า ต้องสร้าง dir ไว้สำหรับ mount drive นั้นก่อนซะงั้น 
  • ซึ่งใน ubuntu เราไม่ได้ mkdir ให้มันแก้ไขแค่ไฟล์ /etc/fstab อย่างเดียวมันก็ auto mount ได้แล้วหว่า
  • สรุปต้องสร้าง dir ลองรับ device ที่จะ mount ก่อนหว่าใน Debian นะ

อ้างอิง
Debian 6

Monday, May 2, 2011

HOW TO RESET UNITY, LAUNCHER ICONS OR COMPIZ IN UBUNTU

http://askubuntu.com/questions/36773/how-to-reset-compiz-in-unity
http://www.webupd8.org/2011/04/how-to-reset-unity-launcher-icons-or.html

Fix Chrome Error Message: “Your profile can not be used because it is from a newer version of Google Chrome”

  • ปัญหานี้เกิดขึ้นเนื่องจากเรามั่วเอง ใช้ Google Chrome 2 version คือ 12 dev และ 11 stable 
  • profile มันเลยตีกันมั้ง


Solved
  • ไปที่พาธประมาณนี้โดยเปลี่ยน YOURNAME เป็นชื่อที่คุณใช้ login ในขณะนั้น
  • C:\Users\YOURNAME\AppData\Local\Google\Chrome\User Data\Default
  • มองหาไฟล์ชื่อ Web Data และลบมันออก
  • จากนั้นปิดและเปิด Google Chrome อีกรอบ Message นั้นน่าจะหายแล้วนะ

Refer

เกี่ยวกัน Wrapper encoding Joomla Module

  • คือใช้ wrapper กับเว็บบางเว็บแล้วภาษาไทยมันติงต๊องเฉพาะ Google Chrome ซะงั้น
  • มันแสดงเป็นตัวภาษาต่างดาวซะงั้น
  • ปกติมันต้องเป็นแบบนี้ อ่านภาษาไทยชัดเจน

Solved
  • โหลด Google Chrome 11 stable มาใช้งานแค่นี้จบ

เพิ่มเติม
  • Google Chrome 10 และ 12 dev ที่เราใช้แล้วมีปัญหากับ module wrapper ที่เรียกเว็บนี้ซะงั้น แล้วแสดงภาษาไทยไม่ได้อ่ะนะ
  • Firefox , IE ก็แสดงภาษาไทยถูกต้องดีนะ 

Mono runtime

  • คือจะรันโปรแกรม KeePass ที่มันใช้ mono บน Ubuntu ได้
  • แต่ก่อนเคยติดตั้งแค่อันเดียวคื่อ
  • sudo apt-get install mono 
  • มันก็ติดตั้ง runtime ให้เลย
  • แต่ 11.04 ไม่เห็นมีเลยจึงติดตั้ง mono-utils แทน แต่มันก็ยังขาด library windows form หว่า


Solved

  • ติดตั้ง mono-devel หรือ mono-runtime น่าจะแก้ปัญหาขาด library ได้

Sunday, May 1, 2011

Install AppMenu support for LibreOffice


sudo apt-get install lo-menubar
  • restart it and try global menu


Setting up static IP in debian




CODE

# /etc/network/interfaces -- configuration file for ifup(8), ifdown(8)


# The loopback interface
auto lo
iface lo inet loopback
# ไฟล์ /etc/network/interfaces ต้นฉบับจะมีแค่บรรทัดสีน้ำเงินบนเนี๋ย


# ด้านล่างสีแดงนี้ลงมาคือเราเติมค่าเอง


# The first network card - this entry was created during the Debian installation
# (network, broadcast and gateway are optional)
auto eth0


iface eth0 inet static
address 192.168.1.10
netmask 255.255.255.0
network 192.168.1.0
broadcast 192.168.1.255
gateway 192.168.1.1


# จบการเพิ่มค่าคอนฟิก static ip debian แหละ
# แก้คอนฟิกเรียบร้อยก็ /etc/init.d/networking restart สักรอบ
# เป็นอันได้ไอพีอันใหม่แหละ
# ถ้าต้องการรับจาก DHCP เช่นเดิมก็แค่ลบพวกสีแดงนี้ออกให้เหลือแค่ loopback พอ


  • The last section is the most important, the top may or may not be the same so don't play with it unless you get an error. In this case the IP of the server is 192.168.1.10 so if you run it as a DNS server for example, you can set that in your router's config and not worry about it changing.
  • To apply this configuration type /etc/init.d/networking restart
  • You'll get a message that it's restarting the network interface, then you'll get booted off ssh (because the IP changed) so reconnect using the new IP and it should work.
  • In red hat this file is /etc/sysconfig/network-scripts/ifcfg-eth0 and you would put this in it:
CODE

DEVICE=eth0
BOOTPROTO=static
ONBOOT=yes
IPADDR=192.168.1.10
NETMASK=255.255.255.0
GATEWAY=192.168.1.1

Virtual host in CentOS 5

  • /etc/httpd/conf/httpd.conf
  • วางค่าคอนฟิกประมาณนี้ใต้ content ที่มีอยู่ ไม่ต้องวางภายใต้ tag ใดทั้งสิ้น
<VirtualHost *:80>
#ServerAdmin webmaster@dummy-host.example.com
DocumentRoot /var/www/html/myweb2
DirectoryIndex index.php index.html index.htm
ServerName juuier.org
ServerAlias *.juuier.org
ErrorLog logs/juuier.org-error_log CustomLog logs/juuier.org-access_log common
</VirtualHost>
# ---------------------------------------------------------------
<VirtualHost 202.28.xx.xx>
DocumentRoot "/var/www/html/myweb"
ServerName juuier.org
ServerAlias www.juuier.org
<Directory "/var/www/html/myweb">
allow from all
Options +Indexes
</Directory>
</VirtualHost>
  • ก่อนแก้ไขก็ backup ไว้หน่อย กันเหนียว
  • เมื่อแก้ไขเรียบร้อยก็
/etc/init.d/httpd reload

เว็บดูบอลออนไลน์ฟรี

http://football.sodazaa.com/

UFW (Uncomplicated firewall) For Ubuntu

  • ๊UFW เป็น firewall ที่ค่อนข้างใช้งานง่าย
  • การปรับแต่ง rule สามารถทำผ่าน command line หรือ GUI ก็มีให้ใช้
  • ติดตั้งด้วยคำสั่ง

sudo apt-get install ufw

urn firewall on and off (‘disable’ is default ACCEPT)

# ufw enable|disable

Toggle logging

# ufw logging on|off

Set the default policy (ie “mostly open” vs “mostly closed”)

# ufw default allow|deny

Accept or drop incoming packets to (can see what services are available with ‘status’ (see below)). can be specified via service name in /etc/services, ‘protocol:port’, or via package meta-data. ‘allow’ adds service entry to /etc/ufw/maps and ‘deny’ removes service entry from /etc/ufw/maps. Basic syntax:

# ufw allow|deny [service]

Display status of firewall and ports in the listening state, referencing /var/lib/ufw/maps. Numbers in parenthesis are not displayed to user

# ufw status

UFW Examples

Allow port 53

$ sudo ufw allow 53

Delete Allow port 53

$ sudo ufw delete allow 53

Allow port 80

$ sudo ufw allow 80/tcp

Delete Allow port 80

$ sudo ufw delete allow 80/tcp

Allow port smtp

$ sudo ufw allow smtp

Delete Allow port smtp

$ sudo ufw delete allow smtp

Allow fro Particular IP

$ sudo ufw allow from 192.168.254.254

Delete the above rule

$ sudo ufw delete allow from 192.168.254.254

GUI Tool for UFW

If you want GUI for UFW check this guide


เพิ่มเติม
  • คอนฟิกไฟล์จะอยู่ที่ /etc/ufw/ufw.conf

Related

Refer

Gufw - Simple GUI for ufw (Uncomplicated Firewall)

  • ติดตั้งด้วยคำสั่ง
sudo apt-get install gufw
  • โปรแกรมจะอยู่ที่ System => Administration => Firewall Configuration
  • ค่าเริ่มต้น Firewall จะ disable เราก็ enable ซะ
  • Add rule แบบแรกจะให้เราเลือก app exception
  • แบบ simple อันนี้เราใส่หมายเลขพอร์ตได้เอง
  • Advanced อันนี้ระบุถึง source และ destination ได้ด้วย

Refer

Adobe Flash Player "Square" for 64 bit Operating System

  • ใช้ Ubuntu 64 bit แล้วติดเล่นไฟล์ flash ใน firefox , google chrome ไม่ได้

Solved
  • ไปดาวนโหลด Adobe Flash Player "Square"
  • เราจะได้ไฟล์ประมาณ flashplayer10_2_p3_64bit_linux_111710.tar.gz
  • ในไฟล์จะมี libflashplayer.so เองหว่า
  • ให้เราคัดลอกไฟล์ .so ไปวางที่
sudo cp libflashplayer.so usr/lib/mozilla/plugins
  • จากนั้น restart browser เราก็จะสามารถเล่น flash ได้ตามปกติ
  • Google Chrome ก็ใช้ร่วมกันได้ด้วยแฮะ ตัว library ตัวนี้หว่า

เพิ่มเติม
  • ทดสอบวางที่พาธนี้ลองดู น่าจะได้เช่นกัน /usr/lib/firefox-addons/plugins/
sudo cp libflashplayer.so /usr/lib/firefox-addons/plugins/

Refer
  • http://labs.adobe.com/technologies/flashplayer10/square/
  • http://forum.ubuntuclub.com/forum/topic,18374.0.html
  • http://forum.ubuntuclub.com/forum/topic,19753.0.html
  • http://forum.ubuntuclub.com/forum/topic,19788.0.html
  • http://forum.ubuntuclub.com/forum/topic,18990.0.html
  • http://forum.ubuntuclub.com/forum/action,search2.html
  • ทดสอบบน Ubuntu 11.04 , Firefox 4, Google Chrome 11

Activate ATI FGLRX graphics driver in Ubuntu 11.04

  • เครื่องเรา ASUS F81Se VX200D มี ATI เป็น VGA
  • ตอนติดตั้งระบบ Ubuntu 11.04 เสร็จใหม่ๆ มันจะใช้ Open source driver นะ
  • effect ทุกอย่างก็ดูลื่นดี
  • พอลอง activate driver ของ ATI ดูผ่าน Additional Drivers
  • ผลคือ effect มันไม่ลื่นเหมือนตอนใช้ Open source driver ATI เลย
  • จบข่าว แค่อยากบอกว่า driver ของ ATI โดยตรงมันไม่เหมาะกับ Ubuntu เลย
  • ใช้ Open source driver ที่มันใช้ตั้งแต่ตอนแรกนั่นแหละดีแล้ว

Popular Posts