Thursday, April 30, 2009

The test form is only available for requests from the local machine

Solved: http://support.microsoft.com/kb/819267

  • ปกติเมื่อเราเขียน web service บนเครื่องตัวเอง สมมุติ เราสร้าง service ขึ้นม 1 web ในเว็บก็มีตัวอย่าง method อันหนึ่ง คือ HelloWorld เมื่อเราทำการทดสอบบนเครื่องตัวเอง เราก็จะเรียกhttp://localhost/service1/service.asmx



  • ซึ่งจะมีปุ่ม invoke หรือ ถ้าเป็น method ที่มีการรับค่าก็จะขึ้น textbox ให้เราใส่ค่าลงไปก่อนกดปุ่ม Invoke



  • แต่ถ้าเราเรียก service นั้นจากเครื่องอื่นก็จะขึ้นปะมาณนี้ซะงั้น ไม่มีปุ่ม Invoke ให้เราทดสอบ oper นั้นๆอ่ะ ตอนแรก งงอย่างแรง แต่พอทดสอบก็ถึงบางอ้อว่า เป็นเรื่องปกติ ของเค้าที่จะทดสอบได้เฉพาะ localhost ซะงั้น
  • แสดงว่าไม่ใช่ปัญหา แต่ถ้าเราต้องการปรับแต่งให้ทดสอบ service บนเครื่อง client อื่นได้นั้นเราต้องปรับแต่งค่าใน web.config ซะหน่อย

Config

1. เปิด web.config ของ service ตัวนั้นขึ้นมา
2. เพิ่มตามนี้เข้าไปภายใต้ <system.web>



<webServices>
<protocols>
<add name="HttpPost" />
<add name="HttpGet" />
</protocols>
</webServices>



3. ผลลัพธ์ก็จะเป็นประมาณเนี๋ย


<configuration>
<system.web>

<webServices>
<protocols>
<add name="HttpGet"/>
<add name="HttpPost"/>
</protocols>
</webServices>

</system.web>
</configuration>

สรุป
  • อันนี้เป็นเรื่องปกติเมื่อเราทำการเรียกทดสอบ service จาก client
  • วิธีแก้เพิ่มแท๊ก <webservices> เข้าไปภายใต้ <system.web>

References:

Wednesday, April 29, 2009

ToolStrip properties C#



การตั้งค่าให้แสดงข้อความใต้รูปภาพบนปุ่นใน ToolStrip ไปดู Properties เหล่านี้
  • DisplayStyle: ImageAndText
  • TextImageRelation: ImageAboveText

ตั้งค่ารูปบนปุ่มให้แสดงขนาดตามขนาดภาพจริง
  • ImageScaling: None

Tuesday, April 28, 2009

Install XMMS & config thai font ubuntu 9.04

ติดตั้งและตั้งค่าให้ xmms แสดงภาษาไทยบน Jaunty

Installation XMMS

Method 1

1. สามารถดาวน์โหลด .deb ได้จากที่นี้เลย xmms_1.2.10+20070601-1build2_i386.deb
2. ดับเบิ้ลคลิกไฟล์ .deb เพื่อทำการติดตั้งซึ่งระหว่างการติดตั้งนั้นจะมีการดาวน์โหลดอาไรนิดหน่อย
3. เมื่อติดตั้งเสร็จโปรแกรมจะอยู่ที่ Applications => Sound & Video => XMMS

Method 2

from: http://www.pvv.ntnu.no/~knuta/xmms/

Add the relevant two lines mentioned below to /etc/apt/sources.list and run aptitude update && aptitude install xmms

Debian Lenny (aka testing) 32- and 64-bit x86

deb http://www.pvv.ntnu.no/~knuta/xmms/lenny ./
deb-src http://www.pvv.ntnu.no/~knuta/xmms/lenny ./

Ubuntu Hardy 32- and 64-bit x86

deb http://www.pvv.ntnu.no/~knuta/xmms/hardy ./
deb-src http://www.pvv.ntnu.no/~knuta/xmms/hardy ./

Ubuntu Intrepid 32- and 64-bit x86

deb http://www.pvv.ntnu.no/~knuta/xmms/intrepid ./
deb-src http://www.pvv.ntnu.no/~knuta/xmms/intrepid ./

If your architecture is missing

These packages are only build for 32- and 64-bit x86 architectures. However, you can easily build your own ones if you have another architecture. Simply add the repositories and do as follows:


aptitude install fakeroot
apt-get build-dep xmms
apt-get -b source xmms

This should give you a few files and a directory with names starting with "xmms". The interesting one is xmms_1.2.11-1_.deb (w

here is your architecture). It can be installed using:

dpkg -i xmms_1.2.11-1_.deb
Method 3: Perfect destop from Howtoforge.com


Note: Installation method 1 is easiest



Config for thai language


1. ตรวจสอบเรื่อง ID3-TAG ไม่รู้เกี่ยวกันปะนะ แต่ก็ป
รับไว้ก่อนเหอะ
2. ปรับ font ให้ xmms เราซะหน่อย

คลิกขวาที่ xmms เลือก Options => Perferences => Fonts

3. เราปรับเกี่ยวกับเรื่อง ID3-TAG และ font แหละ แต่ทำไมยังแสดงไทยไม่ได้อ่ะ
  • ลองเล่นไฟล์เพลงไทยจาก directory อื่น อ่านไทยออกซะงั้น มีแค่บาง directory ที่อ่านไม่ได้
  • ตอนแรกสังเกตเห็นว่า เพลงที่อ่านไทยไม่ได้เมื่อเปิดกับ easytag ที่ Title: จะเป็นค่าว่างคือไม่มีอาไรเลย ส่วนเพลงที่ xmms แสดงภาษาไทยได้นั้น เมื่อเปิดกับ easytag ที่ Title: ไม่ว่างคือมีชื่อเพลงอยู่
  • ทำให้คิดว่านี้น่าจะเป็นวิธีแก้คือ คัดลอกชื่อเพลงจากด้านบน มาวางที่ Title: แต่เพลงมันเยอะหว่า ไม่ไหวแน่ๆ กำจริง
  • จริงๆ แล้วเรื่อง ID3-TAG ไม่น่าจะเกี่ยวเท่าไหร่หรอก ที่บอกอย่างนั้นก็เพราะว่า ก่อนหน้าที่จะลง Jaunty เนี๋ย ไม่รู้เรื่อง ID3-TAG มาก่อน ใน playlis t ก็ยังแสดงภาษาไทยเราได้นะ ^^' แต่ก็ปรับใว้รอเผื่อเปิด totem เล่น mp3 อ่ะนะ
4. หลังจากคิดว่าไม่ไหวอ่ะ ขี้เกียจ ก๊อปวางมือหงิกพอดี เลยพรุ่ งประเด็นไปที่ xmms แทนว่าพอจะปรับอาไรเค้าได้มั่ง เลยลองปรับการแสดงผลใน playlist ดู ผลปรากฏว่า พระเจ้าช่วยได้ซะงั้น O_o
  • ก่อนปรับค่าจะเป็น %p - %t ประมาณเนี๋ย

  • ทดลองปรับเป็น %t อย่างเดียว หรือ จะลองแบบอื่นก็น่าจะได้คิดว่า ต้องมั่วเองเรื่องนี้นะ
  • ทดลองปรับเป็น %f ก็ได้แฮะแสดงชื่อไฟล์.mp3 เลยอ่ะ
  • หรือ เราลองลบออกหมดปล่อยให้ Title: ว่างไปเลยก็แสดงภาษาไทยเราได้แฮะ ^^'
5. แค่เนี๋ย xmms เราก็จะแสดงผลภาษาไทยเราได้ถูกต้องแหละ

Note:

  • การเลือกฟอนท์ก็เลือกที่มี tis-620 แค่นั้นก็จะแสดงภาษาไทยได้แหละ เยอะเลยใน jaunty นะ
  • เช่น waree หรือ umpush เป็นต้น
  • แต่ยังติดปัญหาเรื่องนี้อยู่หว่า คือ การ browse files จาก xmms โดยตรงอ่ะ ภาษาไทยเราเป็นรูปสีเหลี่ยมซะงั้น - -' ใครรู้ช่วยแนะนำที

Solved:
  • คลิกขวาที่ xmms เลือก Options => Perferences => Title
  • ที่ช่อง Title format: ทำให้ว่างเลยก็ใช้ได้แหละภาษาไทยเรา
  • หรือ เปลี่ยนใช้โปรแกรมอื่นเล่นแทน O_o เช่น audacious
  • sudo apt-get install audacious
  • แนะนำใช้ audacious แทน xmms ดีกว่าแฮะ
  • รู้สึกว่า audacious จะกินแรมแค่ประมาณ 10 M
  • ส่วน xmms รับประทานไปประมาณ 13 M ในขณะยังไม่เล่นเพลง
  • สรุปเปลี่ยนโปรแกรมเล่น mp3 ไปใช้ audacious แทน จบครับพี่น้อง


Related:

Monday, April 27, 2009

Create FTP virtual directory on M$WD Server 2003

สร้าง virtual สำหรับ ftp และเพิ่ม ผู้ใช้สำหรับ virtual ftp นั้น

1. เข้าไปที่ Control Panel => Administrative Tools => Internet Information Services













2. คลิกขวาที่ Default FTP Site => New => Virtual Directory... แล้วก็ Next ไปเรื่อยๆ จดเสร็จ



3. หลังจากสร้างเสร็จ ในที่นี้เราสร้าง virtual host ftp ชื่อ jui ซึ่งเราจะเห็นได้ภายใต้ Default FTP Site คลิกขวาแล้วเลือก Permission



4. เพิ่ม user ที่จะให้มีสิทธิ์สำหรับ virtual host ftp นี้ ในที่นี้เพิ่ม jui ให้ใช้ ftp virtual host นี้ได้ทุกสิทธิ์

5. ทดสอบโดยใช้ ftp client แล้ว login ด้วย user ที่เราได้ทำการเพิ่ม เมื่อเรา login พาธที่เข้าจะอยู่ตำแหน่งที่ของ virtual host ftp นั้นแหละ



Note
  • แนะนำ FTP Client ที่ใช้บ่อยๆ ก็ add-ons ของ FF ชื่อ FireFTP
  • การตั้ง user แบบด้านบน แค่ตอน login จะไปที่ vitual ftp site นั้น แต่ user นั้นสามารถขึ้นไปยังด้าน parent dir ได้อ่ะ ซึ่งดูแล้ว parent มันไม่ใช่ parent physical จริงที่อยู่บน server อ่ะ เป็น path อยู่ที่ในใหนบน server ยังไม่รู้ ต้องทำไงหว่า ถึงให้ cd .. ไป parent dir ไม่ได้ ตั้งค่าไม่เป็นหว่า
  • รู้แหละเป็น path ของ default FTP นี่เอง เข้าใจว่า map folder ได้แต่ถ้า up ขึ้นไปจะเห็น parent ของ virtual ftp นั่นเอง

The terminal server has exceeded the maximum number of allowed connections.

When we log on server 2003 we get this message.




"The terminal server has exceeded the maximum number of allowed connections."

อันนี้คือ ที่เจอในอินเทอร์เน็ต
  • mstsc /v:[00.00.00.00/SERVERNAME] /f -console
  • Example: mstsc /v:192.168.1.99 /f -console
  • หรือคำสั่งนี้ mstsc /console ก็ขึ้น error เหมือนเดิมหว่า

This problem solved by command:

  • Start => Run type follow this
  • mstsc /admin

Note




  • แต่ถ้า มีใครใช้ mstsc /admin แล้ว เราจะต้องรอให้เค้า logout ออกก่อน (หรือป่าวไม่รู้)
  • ฉะนั้น ไม่ควรบอกให้คนอื่นรู้ กั๊กไว้ว่างั้น

Enviroment
  • Windows Server 2003 RC2
  • client xp sp3

References:

Sunday, April 26, 2009

Keyboard layout display unchange


  • ปัญหาคือ เมื่อเรากด Alt+Shift แล้วทำไม USA ไม่เปลี่ยนเป็น Thai อ่ะ แต่พอทดสอบพิมพ์ไทยบน gedit ก็เป็นภาษาไทยเรานะ งง ลองรีบูตระบบตั้งหลายครั้ง ไม่หายสักทีงง
  • ลองเปลี่ยนเป็นรูปธงชาติ ไม่หายหว่า
  • นั่งเดาอยู่ตั้งนานว่า เป็นอาไรของเค้า งง อย่างแรง
  • ไม่รู้เป็นเพราะอาไรอ่ะนะ แต่รู้อย่างเดียวว่า ทำตามต่อไปนี้แล้ว ปัญหาจะหมดไป
วิธีแก้



1. ปรับ key ใหม่โดย คลิกขวาที่ USA นั่นแหละ เลือก "Keyboard Perferences"



2. ไปที่แท๊ป "Layouts" ให้เราคลิกที่ปุ่ม "Layout Options..."



3. ที่นี้ให้เราคลิกขยายที่ "Key(s) to change layout" และติ๊กเครื่องหมายถูกหน้า Alt+Shift ออก และ ติ๊กเลือกใหม่อีกที

Note
  • สรุป ไปติ๊กที่ alt+shift ออก และ ทำการเลือก alt+shift อีกที งงเหมือนกันแก้ได้เฉยเลย คล้ายกับว่าต้องการ การกระตุ้นอ่ะนะ ^^'
  • แต่ที่น่าแปลกอีกอย่างคือ เป็นเฉพาะ ตอนติดตั้งบน partition แบบ ext3 นะ แต่พอลงใหม่เลือกใช้ ext4 ไม่ต้องกระตุ้น ก็ใช้ได้ได้ปกตินะ
  • แบบนี้เค้าเรียกแมลงปีกแข็งได้ปะเนี๋ย

Reference
  • มั่วไปเรื่อยเรา
  • เจอที่อ้างอิงแหละ เป็นเหมือนกันด้วยแหละ ubuntu 9.05 PE
  • นึกว่าระบบกิ๊กก๊อก อยู่คนเดียวซะแหละ

Install application server for Ubuntu 9.04 Jaunty

ติดตั้ง applicaton server สำหรับ Jaunty

# สงสัยจะเป็นเรื่องปกติซะแล้ว เมื่อลงระบบใหม่ต้องลงโปรแกรมเหล่านี้ตามตลอดเลย
# วิธีที่ดีกว่านี้มีอยู่ก็ไม่ทำ เพราะว่า ทำยังไม่เป็น ก็เลย manual ไปก่อน

sudo aptitude install samba openssh-client openssh-server apache2 php5 libapache2-mod-php5 php5-cli php5-cgi php5-mysql php5-pgsql mysql-server vsftpd subversion libapache2-svn

โปรแกรมสามัญประจำเครื่องก็ประมาณนี้ หรือ จะไปเลือกติดตั้งจากที่นี่ http://appnr.com/ ง่ายมากๆ
clamtk
ubuntu-tweak
unrar
shutter
stardict
vlc
aptoncd
acetoneiso
picasa
ที่มา:



The Perfect Desktop - Ubuntu 9.04

Solve : the application failed to initialize properly (0xc0000135)

แก้ปัญหา "The application failed to initialize properly (0xc0000135)"


  • อาการแบบเนี๋ยเกิดขึ้นตอนเราจะเปิดโปรแกรมอาไรสักอย่างอ่ะนะ
  • ตอนแรกนึกว่าโดนไวรัสอาไรสักอย่างเล่นงาน
  • แต่พอหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ต เค้าบอกว่า ต้องลง .net framework 2.0 นะ
  • แล้วถ้าลง 3.5 เลยจะได้มั้ยหว่า
  • framework 2.0 แก้ได้จริงๆ แฮะ
  • ถ้าลงแหละ ไม่หายลองลง 1.1 ดูเผื่อจาหาย
  • หรือ ถ้าลง 2.0 แล้ว error เปลี่ยนเป็นประมาณ debug ให้เราลง 1.1 ด้วย

References:

VirtualBox 2.2 better than 2.1 about network interface

VirtualBox 2.2 รู้สึกว่าจะแก้ปัญหาเกี่ยวกับ network interface ทุกอย่างแล้วนะเนี๋ย







  • ขอทบทวนความหลังก่อน 2.0.6 ต้องสร้าง interface สำหรับแบบ host-only เอง ทำ bridged ยุ่งยากมาก เลยไม่ได้ทำ
  • เวอร์ชั่น 2.1 ปัญหาเรื่อง bridged interface หมดไป กับเจอปัญหา host-only ซะงั้น
  • ส่วนเวอร์ชั่นล่าสุดก็บทความเนี๋ย 2.2 แล้ว ถือว่า โอเคมากๆเลยเรื่อง network interface ใช้ได้หมดทุกอย่างแล้ว ไม่ยุ่งยากอีกต่อไป ^^' ขอบคุณ sun
  • ใน 2.2 เนี๋ย อันนี้อ้างอิงบน ubuntu นะ ถ้าเราเลือก Type: แบบ Bridged ข้างล่าง Attached to ที่ Adapter: เราจะเห็น eth0 แต่ ถ้าเราเลือกแบบ Host-only ที่ Adapter: เราก็จะเห็นเป็น vboxnet0 ซึ่งเป็น interface ของ vb ที่จะสร้างสำหรับการเชื่อมต่อนี้
  • ถ้ายังไม่ได้ตั้ง Host-only เมื่อเราใช้ ifconfig จะไม่เห็น interface vboxnet0 นะ แต่เมื่อเราตั้งค่า Network Interface ของ guest os ให้เป็นแบบ Host-only เราลองสั่ง ifconfig ดูจะเห็น vboxnet0 ด้วยอ่ะ
  • ไม่รู้บน M$WD จะคล้ายกับการรันบน Linux ป่าวนะเพราะยังไม่ได้ลองแต่คิดว่าน่าจะคล้ายๆ หรือ เหมือนกันล่ะมั้ง ^^'



Note:
  • ไปทดลอง 2.2 บน xp มาปรากฏว่า เมื่อเราลง vbox เสร็จโปรแกรมจะสร้าง network interface ขึ้นมาให้เราเลย VirtualBox Host-Only Network ซึ่งยังไม่ได้ assign ip ถ้าเราสร้าง guest และตั้งค่า network แบบ Host-only และ เมื่อเราทำการรัน guest os interface บน parent จะได้ ip ด้วย

Related:

Saturday, April 25, 2009

Transmission bittorrent client in ubuntu

Transmission bittorrent client ที่น่าใช้อีกตัวบน ubuntu นะ
  • แต่ก่อนก็ใช้แค่ Vuze แต่รู้สึกจะอืดขึ้นทุกวันยังไงก็ไม่รู้ เป็นกับ java runtime ด้วยหรือป่าวก็ไม่ทราบ
  • พอดีติดตั้ง ubuntu 9.04 แล้วเห็นโปรแกรม internet เค้าติดตั้ง transmission มาให้ด้วย(หรือป่าวไม่แน่ใจว่าไปติดตั้งเองตอนไหน)
  • ก็ใช้ค่อนข้างง่ายๆ ไม่มีอาไรมากมาย
  • แนะนำอีกทางเลือกสำหรับนักโหลดบิตบนลินุกซ์
  • ต้องลองเองรู้สึกว่า การเปิดโปรแกรมจะเร็วกว่า Vuze เยอะเลย ก็น่าจะเร็วกว่าอยู่อ่ะนะไม่แปลกเท่าไหร่
  • ดูไปดูมา เค้าก็ติดตั้งโปรแกรมเนี๋ยมาให้แล้วตั้งแต่ ubuntu รุ่นก่อนตลอดเลยหว่า แต่เราไม่ใช้เอง
  • ใกล้เกลือกินด่าง มีของดีอยู่แล้วแท้ๆ ก็ยังไปหาโปรแกรมอื่นมาใช้ซะงั้นเรา - -'
  • สงสัยเราจะเอ๋อเอง เปลี่ยน icons แล้วจำโปรแกรมไม่ได้ซะงั้น ^^'
  • ถ้ายังไม่มีก็ติตตั้งได้โดยคำสั่ง เนี๋ย
sudo apt-get install transmission
  • ถ้าจะใช้เค้าแบบบรรทัดคำสั่งก็ติดตั้งตัวนี้เลย
sudo apt-get install transmission-cli
  • ชอบ tranmission อีกอย่าง คือ เราสามารถควบคุมผ่าน browser ได้เหมือน utorrent เลย

เพิ่มเติม
  • เข้า utorrent webui โดยตั้งค่า Preferences -> Advanced -> WebUI
  • ให้ใช้ 8080 และเปลี่ยนรหัสผ่าน admin ซะ
  • แล้วเข้าเว็บด้วย http://localhost:8080/gui

อ้างอิง

Ubuntu-Tweak on Ubuntu 9.04 Jaunty

ติดตั้ง ubuntu-tweak ให้ Jaunty เรา

The package is suitable under Hardy, Intrepid and Jaunty.

Source Code

ubuntu-tweak-0.4.7.tar.gz

Deb package for all

ubuntu-tweak_0.4.7-1~intrepid3_all.deb

Old version of Ubuntu Tweak is available here:

http://code.google.com/p/ubuntu-tweak/downloads/list

How to add the source of Ubuntu Tweak

open your terminal, first import the key:

sudo apt-key adv --recv-keys --keyserver keyserver.ubuntu.com FE85409EEAB40ECCB65740816AF0E1940624A220

type the command to run gedit(or other editor in your opinion) to modify the sources.list:

sudo gedit /etc/apt/sources.list

And put the two line into it(If you are using Ubuntu 8.04 Hardy or early) :

deb http://ppa.launchpad.net/tualatrix/ubuntu hardy main
deb-src http://ppa.launchpad.net/tualatrix/ubuntu hardy main

Or Ubuntu 8.10 Intrepid:

deb http://ppa.launchpad.net/tualatrix/ubuntu intrepid main
deb-src http://ppa.launchpad.net/tualatrix/ubuntu intrepid main

Or Ubuntu 9.04 Jaunty:

deb http://ppa.launchpad.net/tualatrix/ubuntu jaunty main
deb-src http://ppa.launchpad.net/tualatrix/ubuntu jaunty main

Then update the source and install or upgrade Ubuntu Tweak:

sudo apt-get update
sudo apt-get install ubuntu-tweak

if you have installed, just type:

sudo apt-get dist-upgrade

ที่มา: http://ubuntu-tweak.com/downloads

Friday, April 24, 2009

Flag icon for keyboard layout gnome

ใส่รูปธงชาติให้ keyboard layout ของเรา
  • ปกติจะมีแค่ตัวอักษร เช่น USA หรือ Thai ในแต่ในเราสามารถใส่รูปธงชาติแทนตัวอักษรได้
  • ไปดาวน์โหลดรูปธงมาก่อนสิครับ โดยหาใน google ด้วยคำค้น svg wiki flag [ชื่อประเทศ] สมมุติเราต้องการหารูปธงชาติไทยเราก็ใส่คำ svg wiki flag thai ประมาณนี้ ในที่นี้ให้เราทำการโหลดทั้ง thai และ usa มาด้วย
  • หลังจากโหลดรูปธงไฟล์ svg มาแหละ มาทำการปรับ scale ด้วย Gimp ให้มีคุณสมบัติประมาณนี้
Width: 64 pixels , Height: 43 pixels
  • บันทึกไฟล์เป็น png โดยธงชาติไทยให้บันทึกเป็น th.png ส่วน ธง USA ให้เราบันทึกเป็น us.png
  • นำไฟล์ png ไปวางไว้ใน /usr/share/pixmaps/ ทั้งสองไฟล์เลย
  • กด Alt+F2 พิมพ์ gconf-editor แล้วไปที่
desktop => gnome => peripherals => keyboard => indicator
  • ที่ showFlags ให้เราทำการติ๊กเลือกซะ
  • รีบูต หรือ logout แล้วเข้าระบบใหม่อีกครั้งหนึ่ง

อ้างอิง

Enable pidgin at system tray

ทำให้ pidgin เป็นส่วนหนึ่งที่ system tray ทั้ง windows และ linux

# ปัญหามีอยู่ว่า ติดตั้ง Jaunty ใหม่อ่ะนะ ลอง pidgin ที่นี้เมื่อเปิดก็เห็น pidgin ที่ system tray เปลี่ยนรูปใหม่เป็นรูป จดหมายแบบเนี๋ย ไม่เห็นอันสีเขียวๆแล้วอ่ะ



# ปัญหาไม่ใช่เรื่องนี้หรอก แต่ปัญหาอยู่ตรงนี้



# ขึ้น error แบบด้านบนเนี๋ยตอนเปิดระบบขึ้นมาตอนแรก พอปิดเค้าสักระยะก็เด้งขึ้นมาอีก ลองอ่านดูข้อความ ก็เลยลองปิด รูปจดหมายที่ system tray ดูพอปิดแล้วสังเกตดูก็หายอ่ะนะ ไม่รู้ว่าเกี่ยวอาไรกันหรือป่าว หรือ จะหาย error เองก็ไม่ทราบได้

# ที่นี้เปิด pidgin ดู ปกติเมื่อเราทำการปิดปุ่ม x ด้านขวาบน pidgin เราก็จะไปอยู่ที่ system tray เลยใช่ปะ แต่ไม่ใช่อย่างนั้นอ่ะดิ pidgin เราปิดไปเฉยเลยกำจริง

# พอพยายามจะ add เจ้ารูปจดหมายนั้นกลับมาให้อยู่ system tray เหมือนเดิมก็ทำไม่เป็นแหละ

# ซึ่งจริงๆ แล้วก็ไม่เกี่ยวกันสักเท่าไหร่หรอนะ เพราะ เราสามารถปรับให้ pidgin ให้แสดงที่ตำแหน่ง system tray ของระบบ ดังนี้

1. เปิด Pidgin เข้าไปที่เมนู Tools => Perferences



2. ที่แท๊ป Interface จะเห็น Show system tray icon: เลือก Always



3. ก็มีแค่นี้เอง จำไม่ได้ซะงั้น ^^' ลืมซะได้เรา งมสักพักพึ่งจำได้

Note: เราสามารถเอารูปจดหมายที่ system tray กลับมาได้โดยคลิกขวาที่ panel เลือก Add to Panel... เลือกอีกทีที่ Indicator Applet แค่เนี๋ยอ่ะ ส่วนทางขวาสุด ข้างๆ ชื่อ user จะเป็น



Install Shutter on Ubuntu 9.04

From: http://www.ubuntugeek.com/shutter-featureful-screenshot-tool.html

Install Shutter in ubuntu

edit your sources.list file using the following command

sudo gedit /etc/apt/sources.list

add one of the following lines

For Jaunty Jackalope Users

deb http://ppa.launchpad.net/shutter/ppa/ubuntu jaunty main
deb-src http://ppa.launchpad.net/shutter/ppa/ubuntu jaunty main

For Intrepid Ibex Users

deb http://ppa.launchpad.net/shutter/ppa/ubuntu intrepid main
deb-src http://ppa.launchpad.net/shutter/ppa/ubuntu intrepid main

For Hardy Heron Users

deb http://ppa.launchpad.net/shutter/ppa/ubuntu hardy main
deb-src http://ppa.launchpad.net/shutter/ppa/ubuntu hardy main

save and exit the file

Now add the PPA’s key using the following command result must only "Ok"

wget -q http://shutter-project.org/shutter-ppa.key -O- sudo apt-key add -

Update source list using the following command

sudo apt-get update

Install shutter using the following command

sudo apt-get install shutter

This will complete the installation.


Related


Origin

Thai ID3 TAG Problem in Ubuntu

แก้ปัญหาภาษาไทยของ ID3 Tag

  • ไม่ค่อยรุ้เรื่องอาไรกับเค้าอ่ะนะ แต่รู้ว่า ทำตามแล้ว totem อ่านไทยรู้เรื่องก็พอ
  • ประเด็นมีอยู่ว่า จะฟังเพลงบนที่อยู่บน drive windows ด้วย totem เล่นเพลง แต่ใน playlist อ่านภาษาไทยเราเป็นต่างดาวซะงั้น
  • เซอร์เวย์ก็เจอหลายที่ ทั้งบอกสาเหตุ และ วิธีแก้ ลิ้งนี้แจ่มสุดแหละ ที่นี่
  • เค้าแนะนำ EasyTAG ติดตั้งด้วยคำสั่ง sudo aptitude install easytag
  • เมื่อติดตั้งเสร็จแหละ ถ้าไม่มีอาไรผิดพลาดโปรแกรมจะอยู่ที่
  • Application => Sound & Video => EasyTAG

วิธีใช้ก็ไม่ยากเท่าที่คิด

คำเตือน: ทดสอบสัก 1 ไฟล์ก่อน ถ้าเข้าใจการใช้จริงๆ ค่อยแปลงไฟล์เยอะๆ เดียวจะหาว่าไม่เตือน

1. เปิดโปรแกรม EasyTag ขึ้นมาก่อนเลยและไปที่ Settings => Perferences...
2. ให้เราตั้งค่าประมาณเนี๋ย

  • Character Set for reading ID3 tags ให้เราเลือกเป็น Thai(TIS-620) อันนี้สำคัญน่าจะประมาณไฟล์ต้นฉบับจะเป็นแบบ TIS-620 เราต้องเลือก read แบบนี้
  • Character Set for writing ID3 tags ที่ Charset: ให้เราเลือกเป็น Unicode UTF-8 อันนี้คิดว่า เราต้องการแปลงไปเป็นรูปแบบใหนนะ
  • ที่ ID3v1 tags Charset: เลือก Unicode (UTF-8)
  • ก็ประมาณนี้ จากที่มั่วๆ นะ ไม่รู้รายละเอียดอาไรกับเค้าหรอก

3. จากนั้นก็ Ok สิครับ ปิด และ เปิด EasyTAG อีกครั้งเข้าไปที่แฟ้มเพลงเรา จะเห็นว่า ไม่มีภาษาต่างดาวใช่ปะ ถ้ายังมีภาษาต่างดาวอยู่อย่าพึ่งไปต่ออันตราย ให้เราไปตั้ง Perferences... ใหม่ให้ได้ก่อน ถ้าตั้งประมาณเราน่าจะไม่มีปัญหานะ นอกจากไฟล์ต้นฉบับ จะมี id3 tag แบบอื่นๆ ถ้าคิดว่าใช่ให้เราลองเลือก reading แบบอื่นๆ ดู แต่ writing น่าจะ UTF-8 อ่ะนะจะถูกแหละ
4. จากนั้นก็เลือกไฟล์ที่จะทำการแปลงทั้งหมด หรือ กดที่รูปเนี๋ย สีน้ำเงิน เต็มแท่งอ่ะ ก็แล้วแต่จะเลือกอ่ะนะ

5. ที่รูปแผ่นดิสเกส ซ้ายสุด กดซะ คือจะทำการ แปลงและบันทึกนั่นเอง ในระหว่างแปลงเค้าจะถามว่าทับไฟล์เดิมมั้ยอันนี้ก็แล้วแต่เราอ่ะนะ
6. เมื่อเราทำการเปิดไฟล์เพลงขึ้นมาอีกที totem เราก็อ่านไทยรู้เรื่องแล้ว เย่ ต้องขอบคุณ พี่สมเจตเค้าจริงๆ

เพิ่มเติม
  • เห็นในเว็บที่เราทำตามพี่เค้าบอกว่า อาจจะมีปัญหาบางไฟล์ พวกไฟล์ที่มีปัญหาให้จะเป็นสีดำตามรุปจากเว็บพี่เค้าเนี๋ย เราต้อง Fill tag ค่าใหม่อ่ะ โดยเลือกเป็น Rename file
  • ก็ไม่ค่อยได้ใช้ totem เท่าไหร่ก็ปัญหาเรื่องนี้อ่ะ แต่ก่อนหนีไปใช้ xmms ตลอดเลย หลังจากบทความนี้คงใช้ totem มากขึ้นกว่าเดิม
  • สรุปปัญหาอยู่ที่ไฟล์นั่นเอง หาแก้ฟอนท์ในโปรแกรมตั้งนาน
  • อีกเรื่องกรณีที่ทำแล้วยังเหมือนเดิม(คือเปิดeasytag ชี้ไปที่ folder เพลงนั้น เพลงนั้นไม่เป็นสีแดงว่างั้น คือปกติถ้าไฟล์มีปัญหาเรื่อง id tag ไฟล์นั้นจะมีสีแดง ตามภาพด้านบนลำดับที่ 3) ให้เลือกเพลงนั้นก่อน จากนั้น กดปุ่ม Scan file(s) แล้วค่อยทำการกดปุ่ม save (รูปแผ่นดิสอ่ะ)

อื่นๆ

อ้างอิง

  • ติดตั้งและทำการแปลงบน ubuntu 9.04
ที่มา

Popular Posts